ช่วงนี้ข่าวสุดฮอตของ Apple ก็คงจะหนีไม่พ้น iPhone 11 ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว แน่นอนว่าเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ iPhone 11 มันดีมากจริง ๆ โดนใจใครหลายคนเลย โดยเฉพาะ iPhone 11 Pro ที่ทั้งสวยและเจ๋ง ว่าแต่มีอะไรบ้าง ต้องไปดูเลย
แต่ก่อนอื่นเราต้องขอบอกว่าความเจ๋งของ iPhone 11 Pro มันยาวมากจนเราต้องแบ่งออกเป็น 3 บทความคือ
- iPhone 11 กับเทคโนโลยีที่ดีกว่าที่เคย มีอะไรบ้าง มาดูกัน! (บทความนี้)
- iPhone 11 Pro กับกล้องทั้ง 4 ตัว พร้อมคุณสมบัติเฉพาะที่ดีเยี่ยมไม่เหมือนใคร!
- iPhone 11 Pro กับเทคโนโลยีถ่ายภาพและวิดีโอที่เจ๋งมากจนคุณต้องตะลึง!
สี Midnight Green
ปกติแล้ว iPhone มักมีแต่สีน่าเบื่ออย่างสีเทา สีเงิน และสีทอง แต่ iPhone 11 Pro มีสีสุดพิเศษให้เลือกคือสีเขียวเข้มหรือ Midnight green
เมื่อ iPhone 11 Pro อยู่ในที่แสงสว่างปกติ เราจะเห็นตัวเครื่องเป็นสีเขียว แต่หากมองในที่ที่มีแสงน้อยจะมองเห็นเครื่องเป็นสีเทา เมื่อรวมเข้ากับกล้อง 3 ตัว และกรอบเสแตนเลสขอบเขียว ทั้งหมดนั้นช่วยทำให้มันดูสวยเท่เป็นที่สุด
ด้านหลังเครื่องเคลือบด้าน
iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ทำจากกระจกเคลือบด้วยพื้นผิวมันผสมด้าน โดยตัวเครื่องทั้งหมดเคลือบเงา ยกเว้นกระจกด้านหลังซึ่งเคลือบด้านเอาไว้ ซึ่งผิวเคลือบด้านนี้จะให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับด้านหลังตัวเครื่อง iPhone 5 ที่เคลือบผิวแบบฝ้า (frosted look) ไว้ใต้แผ่นกระจก
หัวชาร์จแบบเร็ว 18 วัตต์
iPhone 11 มาพร้อมกับสายชาร์จแบบด่วนพร้อมหัวแปลงไฟ 5 วัตต์ที่ชาร์จได้ถึง 50% ภายใน 30 นาที และสำหรับ iPhone 11 Pro จะพิเศษกว่านิดหน่อย เพราะจะได้หัวแปลงไฟ 18 วัตต์ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ iPad Pro ชาร์จได้เร็วกว่า
หน้าจอแบบ Super Retina XDR
หน้าจอ iPhone 11 ยังเป็นหน้าจอแบบ Super Retina XDR รุ่นความหนาแน่น 458 พิกเซล ซึ่งมีความละเอียดเท่ากับ iPhone XS และ XS Max แต่ส่วนที่ปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมมีดังนี้
iPhone 11 Pro ใช้หน้าจอแบบ Super Retina XDR OLED ที่มี Contrast Ratio หรืออัตราส่วนค่าสีดำที่ดำที่สุดและสีขาวที่ขาวที่สุดอยู่ที่ 2,000,000:1 แต่ iPhone XS ใช้หน้าจอ Super Retina HD ที่มี Contrast Ratio อยู่ที่ 1,000,000:1 เท่านั้น
ส่วนค่าความส่องสว่างของ iPhone 11 อยู่ที่ 800 nit ซึ่งมากกว่า iPhone XS ที่มีอยู่เพียง 625 nit เท่านั้น ช่วยให้มองหน้าจอในที่แสงสว่างมาก ๆ อย่างกลางแจ้งแล้วยังเห็นภาพในหน้าจอได้ชัดเจน
นอกจากนี้ iPhone 11 Pro ยังปรับความส่องสว่างได้สูงถึง 1200 nit ได้เมื่อเล่นไฟล์ภาพยนตร์ 4K HDR หรือดูรูปภาพแบบ HDR
สรุปแล้วหน้าจอ iPhone 11 Pro มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงกว่าหน้าแบบ Super Retina HD ของ iPhone XS ถึง 15% แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการกินแบตเตอรี่ที่มากกว่าด้วย
โหมดดาร์ก (Dark Mode)
จริงอยู่ที่ว่า iPhone รุ่นอื่น ๆ ที่อัพเดตเป็น iOS 13 ก็ใช้โหมดดาร์กได้เช่นกัน แต่บอกเลยว่าถ้าใช้โหมดดาร์กกับ iPhone 11 Pro มันจะแสดงผลได้ดีที่สุด เพราะหน้าจอแบบ OLED และการเพิ่ม Contrast Ratio มากขึ้น ก็ทำให้ Dark Mode บน iPhone 11 แสดงภาพที่ความสดและสมจริงได้แตกต่างจาก iPhone รุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด
Live wallpaper
iPhone 11 มาพร้อมฟีเจอร์ Live wallpaper หรือวอลเปเปอร์หน้าจอแบบเคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้ยังมีเหลือกหลายแบบ และแต่ละแบบก็สวยงามและดีงการแสดงประสิทธิภาพเริด ๆ ของหน้าจอได้ดีมากด้วย
ชิปเซต A13 Bionic
ชิปเซต A13 Bionic ของ iPhone 11 ได้รับการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ด้วยอัตราเฟรมเรตที่ 60 เฟรมต่อนาทีเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ชิปเซต A13 Bionic ยังใช้แบตเตอรี่น้อยกว่า รวมไปถึงหน้าจอแบบ Super Retina XDR และระบบประมวลผล CPU, GPU และ Neural Engine ชนิด 8 คอร์ ยังทำงานได้ดีกว่าเดิม 15-40% ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม iPhone 11 Pro ถึงใช้แบตเตอรี่ได้นานกว่า iPhone XS ถึง 4-5 ชั่วโมง
ชิป U1 Ultra Wideband
iPhone 11 และ iPhone 11 Pro มีชิป U1 Ultra Wideband หรือเทคโนโลยี Ultra-Wideband (UWB) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแบบคลื่นสั้น ใช้การส่งผ่านข้อมูลแบบพัลซ (Pulse) สั้น ๆ ผ่านคลื่นวิทยุความถี่กว้าง เพื่อให้สำหรับระบุตำแหน่งแบบละเอียด ซึ่ง Apple นำมาใช้ในการระบุตำแหน่งในบ้าน เพื่อให้ระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ที่มีชิปแบบเดียวกันนี้ได้
Apple อาจเพิ่มชิปนี้เข้ามาเพื่อให้รองรับ Apple Tag ในอนาคต อ่านรายละเอียดได้ที่ >> ลือ! Apple Tags กับเทคโนโลยี Ultra-Wideband ช่วยระบุตำแหน่งได้แม่นยำกว่าเดิม
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น
Apple ประกาศว่า iPhone 11 จะใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม 5 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ที่สุด นั่นหมายความว่า iPhone 11 Pro Max จะกลายเป็น iPhone ที่ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานที่สุด โดยเอาชนะ iPhone XR ซึ่งเคยเป็นรุ่นที่ใช้งานได้นานที่สุดปีก่อน ส่วน iPhone 11 รุ่นเริ่มต้นจะใช้งานได้นานกว่า iPhone XR ถึง 1 ชั่วโมง
กันน้ำได้ดีกว่าเดิม
iPhone 11กันน้ำลึกได้ถึง 2 เมตร นาน 30 นาที ซึ่ง iPhone XR ทำได้เพียง 1 เมตรเท่านั้น ส่วน iPhone 11 Pro ยังทำได้ดีกว่าให้สมชื่อ Pro เพราะกันน้ำลึกได้ถึง 4 เมตรเลยทีเดียว
นอกจากนี้กล้องของ iPhone 11 ยังดีมาก ๆ จนเป็นเหตุผลให้หลาย ๆ คนยอมควักเงินจ่ายเพื่อให้ได้มาครอบครอง ส่วนจะดียังไง ต้องตามอ่านบทความนี้
- iPhone 11 Pro กับกล้องทั้ง 4 ตัว พร้อมคุณสมบัติเฉพาะดีเยี่ยมไม่เหมือนใคร!
- iPhone 11 Pro กับเทคโนโลยีถ่ายภาพและวิดีโอที่เจ๋งมากจนคุณต้องตะลึง!
ที่มา 9to5mac.com