มีข่าวว่า Apple เริ่มบันทึกวิดีโอเปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมี iPhone 14 ใหม่อยู่ด้วย แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่ามีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับ iPhone 14, iPad Pro, iPad และ Apple Watch ตัวใหม่บ้าง!
iPhone 14
เริ่มกันที่ไฮไลต์เด็ดอย่าง iPhone 14 ที่มีข่าวว่าจะมีสีม่วงเป็นสีใหม่ให้เลือก มี Fast charging มีแม่เหล็กที่ดูดแน่นติดหนึบกว่าเดิม ขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น แน่นอนว่าจะทำให้ตัวเครื่องหนักขึ้นเช่นกัน และหัวชาร์จจะเปลี่ยนเป็นแบบ 30W เพื่อให้ชาร์จไฟได้ไวกว่าเดิม
ส่วนชิปใช้เป็นชิปโปรเซสเซอร์ A16 ตัวใหม่ขนาด 5nm ที่ใช้เทคโนโลยี TSMC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นแบบสุด ๆ
ตัวเครื่องของ iPhone 14 จะใช้วัสดุแบบเดิม แต่จะมีสีใหม่เข้ามา ซึ่งคือสีม่วง (โค้ดสี #574f6f) ที่อาจมาแทนสีชมพูสำหรับ iPhone 14 และฟ้า Sierra Blue สำหรับ iPhone 14 Pro
ชิป A16 ใน iPhone 14 Pro และ Pro Max ได้รับการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นเมื่อมีระบบจัดการความร้อนที่ดีขึ้น
Always On Display ก็มาเช่นกัน ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแสดงข้อมูลวันและเวลาเอาไว้บนหน้าจอ iPhone เสมอ เป็นฟีเจอร์เดียวกับที่ใช้บน Apple Watch ถึงแม้จะบอกว่าเป็น Always แต่ว่าฟีเจอร์นี้จะไม่ได้ถูกตั้งค่าเปิดเอาไว้เป็นค่า Default (ค่าเริ่มต้น) แต่ต้องเข้าไปตั้งค่าเอาเองได้ที่ Settings > Display & Brightness > Display > Always On Display
iPad Pro
iPad Pro รุ่นใหม่ ทั้งขนาด 12.9 นิ้วและ 11 นิ้วอาจมี Pin connector ที่ตรงขอบด้านบนและล่างถึง 4 หัว จากเดิมที่มีเพียง 3 หัว
Pin connector นี้ใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง Magic Keyboard ดังนั้นการเพิ่ม Pin connector ให้มากขึ้นนี้อาจเพื่อให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้ดีมากขึ้น หรืออาจทำมาเพื่อใช้กับ MagSafe แบบใหม่ก็เป็นได้
นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่า Pin connector แบบ 4 หัวนี้จะมาเป็นอุปกรณ์ช่วยเชื่อมต่อกับพอร์ต Thunderblot/USB-C ของ iPad ที่ใช้ชิป M1 เพราะฟีเจอร์ DriverKit แบบเดียวกับ macOS จะเริ่มปล่อยให้ใช้ได้ใน iPadOS 16 นี้
iPad 10
หลุดภาพจำลอง CAD ของ iPad 10 ที่เผยให้เห็นว่าตัวเครื่องมีขอบแบน และมีกล้องหลัง 1 ตัวเหมือนรุ่นก่อน แต่มาพร้อม LED Flash มีขอบนูนทรงสี่เหลี่ยมตรงกล้องหลังซึ่งตรงนี้จะต่างจาก iPad 9 (รุ่นปัจจุบัน) และด้านหลังตัวเครื่องมีโลโก้ Apple
นอกจากนี้ตรงขอบจอด้านบนและล่างจะมีช่องลำโพงซึ่งอาจจะติดตั้งเป็นลำโพงแบบ 4 ตัว ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ขอบด้านบน และปุ่มปรับเสียงจะอยู่ตรงขอบด้านข้าง
ส่วนช่องชาร์จไฟจะอยู่ตรงจุดสีแดงในภาพจำลอง CAD แต่ยังฟันธงไม่ได้อยู่ดีว่า Apple จะใส่พอร์ตแบบไหนเข้ามา พอร์ต USB-C หรือ Lighting แบบเดิม
iPad 10 นี้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเดิม แต่ความบางจะบางลงกว่าเดิม โดยขนาดจะอยู่ที่ 248.62 x 179.50 x 6.98mm
ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ ของ iPad 10 จะมีดังนี้ คือ ชิปโปรเซสเซอร์ A14, รองรับ 5G, พอร์ต USB-C และหน้าจอใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย
Apple Watch 8
Apple Watch 8 รุ่นเริ่มต้นยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม ขนาดเท่าเดิม เหมือนเดิมกับ Apple Watch รุ่นปัจจุบัน ดังนั้นใครที่รอตัวเรือนแบบไทเทเนียมก็ต้องรอต่อไปเช่นกัน
แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือมีสี Silver (เงิน) ให้เลือก จึงทำให้ Apple Watch 8 มี 4 สีด้วยกัน คือ Midnight, Starlight, Product Red และ Silver
ส่วนฟีเจอร์ตรวจจับอุณหภูมิก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีมาด้วยหรือไม่ แต่มีแนวโน้มว่า Apple จะใส่เข้ามาใน Apple Watch รุ่นปกติ ซึ่งรุ่น 8 ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่จะไม่ใส่มาใน SE รุ่นใหม่
แต่หากว่าผู้ใช้งานอยากได้ Apple Watch ที่มีการอัพเกรดแบบจัดเต็มอาจจะต้องรอ Apple Watch Pro ซึ่งมีข่าวว่าจะเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นและทนทานต่อการแตกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากออกแบบมาสำหรับกิจกรรมโหด ๆ อย่างการปีนเขาหรือว่ายน้ำ มีการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น และตัวเคสใช้วัสดุเป็นโลหะพรีเมี่ยมอย่างเช่นไทเทเนียม
ที่มา iclarified.com (1), (2), (3) และ (4)