จากยุคที่ฟังเพลงจากม้วนเทป แล้วมาแผ่นซีดี จนมาเป็นไฟล์ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ และตอนนี้ช่องทางการฟังเพลงที่กำลังได้รับนิยมมากๆ ก็คือ “สตรีมมิ่ง” หรือการฟังเพลงออนไลน์นั่นเอง บริการที่ดังมากๆ ในต่างประเทศก็คือ Spotify แต่น่าเสียดายที่ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย วันนี้ผมมีบริการฟังเพลงออนไลน์ใหม่ล่าสุดที่เปิดให้บริการในไทย นั่นก็คือ Joox Music ซึ่งจุดเด่นของ Joox ก็คือ ฟรี, เพลงเยอะ ทั้งไทยและเทศ มาดูรีวิวกันเลยครับ
ก่อนอื่นขออธิบายสำหรับคนที่อาจจะยังไม่เคยใช้บริการฟังเพลงออนไลน์ หลักก็คือ เราสามารถฟังเพลงจากผู้ให้บริการได้ผ่านทาง WiFi, 3G/4G นั่นเอง โดยบริการส่วนใหญ่จะต้องเสียค่าบริการรายเดือนถึงจะฟังได้ บางบริการก็ให้บริการฟรี แต่จะมีโฆษณาหรือข้อจำกัดบางอย่าง ซึ่ง Joox เป็นบริการฟังเพลงที่ให้บริการฟรี โดยในช่วง 3 เดือนแรก จะฟังฟรีและใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ หลังจากครบ 3 เดือนแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถฟังเพลงได้ (ยกเว้นเพลง VIP) โดยที่มีโฆษณาในตัวแอป หากผู้ใช้ต้องการใช้งานแบบไม่มีโฆษณาหลังจากครบทดลองใช้ 3 เดือน ก็จะสามารถเลือกแพคเกจได้ ซึ่งผมจะพูดถึงในรีวิว
ใช้งานแอปครั้งแรก ต้องทำการสมัครสมาชิก โดยสามารถ log in ผ่าน Facebook หรือจะใช้ Email ก็ได้ครับ
Joox มี 3 เมนูหลัก โดยสามารถเลือนซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนหน้าจอ ดังนี้
- Discover (เมนูตรงกลาง) สำหรับฟังเพลง โดยมีการแบ่งหมวดหมู่เพลง ชาร์ตเพลง ฯลฯ
- Radio (เมนูขวามือ) เป็นบริการฟังวิทยุออนไลน์ โดยทาง Joox จะเป็นจัดเพลงมาให้เราฟัง
- My Music (เมนูซ้ายมือ) สำหรับดูเพลง และ playlist ที่เราบันทึกและสร้างเอาไว้ รวมถึงการตั้งค่า
มาดูในส่วนของการตั้งค่า My Account เพื่อประเภทบัญชีของเรา ถ้าเป็นการใช้งานครั้งแรก เราจะได้เป็น VIP ฟรี 3 เดือน ในตัวแอปจะบอกวันหมดอายุ (ตามลูกศรชี้) ในช่วงฟรี 3 เดือน เราสามารถใช้งานได้ทุกอย่าง โดยไม่มีโฆษณา
หากหมดอายุแล้ว เราสามารถกดที่ Purchase VIP เพื่อซื้อแพคเกจ โดยมี 4 ราคา ดังนี้
- 3.99$/เดือน (ประมาณ 143 บาท)
- 9.99$/3 เดือน (ประมาณ 359 บาท)
- 17.99$/6 เดือน (ประมาณ 647 บาท)
- 33.99$/ปี (ประมาณ 1,223 บาท)
สิ่งที่สมาชิก VIP จะได้รับก็คือ
- ไม่มีโฆษณามากวนใจขณะฟังเพลง
- เลือกฟังเพลงคุณภาพสูงได้
- สามารถดาวน์โหลดเพลงลงเครื่อง เพื่อฟังตอนไม่มี Internet ได้
- ฟังได้ทุกเพลง ทั้งเพลงธรรมดาและเพลง VIP
นั่นแสดงว่า หากหมดช่วงทดลองฟังฟรี 3 เดือนแรก ถ้าใครไม่อยากต่อ ก็ยังสามารถใช้งาน Joox ฟังเพลงได้ แต่จะมีโฆษณามาคั่น, เลือกฟังเพลงคุณภาพสูงไม่ได้, ดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบออฟไลน์ตอนไม่มีเน็ตไม่ได้ และฟังเพลง VIP ไม่ได้
ในส่วนของการตั้งค่าอื่นๆ ที่ผมยกตัวอย่างมาให้ดูก็คือ สามารถปรับคุณภาพเพลงได้ ว่าหากฟังผ่าน Wi-Fi หรือ 3G/4G จะให้ปรับเป็นคุณภาพระดับไหน เพื่อสอดคล้องกับความเร็วและไม่เปลืองดาต้า ฯลฯ
นอกจากนี้ Joox ยังรองรับระบบเสียง DTS ที่สามารถปรับค่าได้หลายอย่าง เหมาะสำหรับคนที่มีหูฟังดีๆ
—————————————————————-
มาดูในส่วนของการฟังเพลงกันต่อครับ
เราสามารถเลือกฟังได้จากลิสต์ที่ทาง Joox แนะนำให้ หรือจะค้นหาด้วยชื่อนักร้อง, อัลบั้ม หรือเพลง ก็ได้ โดยผลการค้นหาจะแยกเป็น เพลง, อัลบั้ม และ มิวสิควิดีโอ
เพลงไหนที่มี MV ต่อท้าย แสดงว่าเพลงนั้นๆ มีแบบมิวสิควิดีโอให้ดูด้วย และหากเพลงไหนมี VIP ต่อท้าย แสดงว่าจะฟังได้เฉพาะสมาชิก VIP เท่านั้น
หน้าจอขณะฟังเพลง จะแสดงผลเป็นรูปซีดีหมุน หากตั้งการกรอเพลง ก็ให้หมุนตัวรูปซีดีได้เลย หากต้องการดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบออฟไลน์ ก็กดที่ปุ่มดาวน์โหลดด้านล่างได้เลย
นอกจากนี้ยังสามารถปรับค่า DTS ได้จากปุ่มล่างชื่อเพลง ส่วนเมนูมุมบนขวา สำหรับเปิดดูรายชื่อเพลงถัดไป
Joox ได้แยกประเภทนักร้องไว้ให้เราสามารถค้นหาได้ง่ายๆ และมีการสร้าง Playlist ตามสถานการณ์ต่างๆ ให้เราเลือกฟังได้ทันที
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Joox ก็คือ มี Radio หรือสถานีวิทยุออนไลน์ ที่เราสามารถเปิดฟังได้ตลอดเวลา และฟรี (ไม่ต้องเป็นสมาชิก VIP ก็ฟังได้) โดยมีการแบ่งสถานีตามประเภทเพลง
และสิ่งที่ผมชอบที่สุดใน Joox ก็คือ มีเนื้อเพลงให้เราได้ร้องตามขณะฟังเพลงได้ด้วย ทั้งเพลงไทยเพลงเทศเลยครับ ถือเป็นอีกจุดเด่นของ Joox เลยก็ว่าได้ (บริการฟังเพลงอื่นๆ ไม่ค่อยมีเนื้อเพลงให้)
—————————————————————-
ใครที่ชอบฟังเพลง โดยเฉพาะเพลงไทย ผมว่า Joox น่าจะตอบโจทย์มากๆ ครับ เพราะนอกจากจะให้ฟังฟรีถึง 3 เดือนแล้ว หากหมดอายุ ยังสามารถใช้งานได้อยู่ (มีข้อจำกัดบางอย่าง) และนอกจากจะฟังออนไลน์แล้วยังสามารถโหลดมาฟังแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย แถมมีสถานีวิทยุให้ฟังเพลงฟรีตลอด 24 ชม. ถ้าต้องเสียเงินเพื่อเป็นสมาชิก VIP ก็ถือว่าคุ้มกับราคามากครับ หรือจะใช้แบบฟรีๆ ก็ยังได้ ยังไงก็ลองใช้กันดูนะครับ 🙂
ดาวน์โหลด Joox ฟรี สำหรับ iOS || ดาวน์โหลด Joox ฟรี สำหรับ Android