แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

iPhone 14 Pro และ Pro Max กล้อง 48MP, สีใหม่, Dynamic Island และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่!

iPhone 14 Pro และ Pro Max จัดเต็มทั้งเรื่องกล้อง ฟีเจอร์ถ่ายภาพ เพิ่ม Dynamic Island และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยแบบใหม่เข้ามาเยอะมาก แล้วการใช้ชีวิตของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!

Dynamic Island 

ติ่ง​ (Notch) หายไป กลายเป็น Dynamic Island เข้ามาแทนที่ ใส่เอาไว้ทั้งฮาร์ดแวร์อย่าง กล้อง TrueDepth และฟอร์ตแวร์การแจ้งเตือนและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สายเรียกเข้า บอกสถานะการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น สถานะเล่นเพลง ปลดล็อกด้วย FaceID 

ซึ่งเจ้า Dynamic Island ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นยาวขึ้นเมื่อแจ้งเตือนหรือแสดงสถานะต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นเด้งขึ้นมาให้เห็นชัดเจนขึ้น 

Always on display

ฟีเจอร์ Always on display หรือหน้าจอล็อก จะแสดงข้อมูลบนหน้าจอ iPhone 14 Pro เอาไว้ตลอดเวลา คุณไม่จำเป็นต้องแตะหน้าจอ แต่เมื่อคุณว่าหน้าจอ iPhone 14 Pro คว่ำลงหรือใส่กระเป๋าปุ๊บ หน้าจอจะดับลงเพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ 

ความสว่างหน้าจอ 2,000 นิต

จอสว่างขึ้นสูงสุด 2 เท่าเมืออยู่กลางแดด หมดปัญหามองหน้าจอแล้วไม่เห็นอะไรเลย นั่นเป็นเพราะหน้าของ iPhone 14 Pro แบบ Super Retina XDR มีความสว่างมากสุดถึง 2,000 นิต ซึ่งความสว่างมากถึงขนาดนี้ยังทำให้การแสดงผลรูปภาพและวิดีโอทำได้ดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน 

กล้องระดับโปร

แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนรอคอยมาก ๆ ก็คือกล้องระดับโปรของ iPhone 14 Pro ที่คราวนี้เพิ่มทั้งความละเอียดและฟังก์ชันใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพสมคำว่าโปร 


  • กล้องหลังความละเอียด 48MP พร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel เซ็นเซอร์ใหญ่กว่า iPhone 13 Pro ถึง 65% รับแสงได้ดีขึ้น 20% ส่งผลให้ ProRAW มีความละเอียดมากขึ้น 4 เท่า ครอปภาพแล้วยังชัดแบบเหลือ ๆ
  • กล้องเลนส์เทเลโฟโต้ 2 เท่า มาพร้อมกับระบบซูมออปติคัล 3 เท่า เหมาะกับโหมดภาพถ่ายบุคคล (Portait) มากที่สุด
  • กล้องเลนส์เทเลโฟโต้มาพร้อมระบบซูมออปติคัล 3 เท่า
  • กล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่มีพิกเซลขนาด 1.4 µm ให้ภาพคมชัดกว่าเดิม เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น ถ่ายมาโคร (Marco) ได้ดีขึ้น
  • Photonic Engine ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยถึงปานกลางให้ดีขึ้นสูงสุด 3 เท่า
  • กล้องหน้า TrueDepth มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.9 จึงถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และมีออโต้โฟกัส โฟกัสได้เร็วกว่าเดิมแม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย ทั้งยังช่วยให้ถ่ายรูปหมู่ได้ในระยะที่ไกลกว่าเดิม
  • แฟลช True Tone ปรับตามสภาวะ โดยใช้แผง LED จำนวน 9 ดวง ซึ่งจะเปลี่ยนรูปแบบตามทางยาวโฟกัสที่เลือกไว้
  • การประมวลผลภาพถ่าย เช่น โหมดกลางคืน, HDR อัจฉริยะ 4, โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมด้วยคุณสมบัติการจัดแสงภาพถ่ายบุคคล, ภาพถ่ายบุคคลในโหมดกลางคืน, คุณสมบัติสไตล์ภาพถ่ายที่ช่วยปรับลุคของทุกภาพในแบบที่ผู้ใช้ต้องการ และ Apple ProRAW
  • โหมดแอ็กชั่น (Action Mode) ถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้นแม้ว่าจะถือ iPhone 14 Pro เคลื่อนไหวไปมาด้วยความรวดเร็วหรือสั่นมาก ๆ  
  • โหมดภาพยนตร์ (Cinematic Mode) ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30 fps และระดับ 4K ที่ 24 fps ได้แล้ว
  • เวิร์กโฟลว์ระดับโปรสำหรับวิดีโอ ซึ่งประกอบด้วย ProRes และ HDR ในแบบ Dolby Vision

Crash Detection

ฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจาก Apple คือ Crash Detection หรือตรวจจับการรถ เมื่อรถยนต์ของคุณเกิดการชน ไม่ว่าจะชนมุมไหนของตัวรถหรือพลิกคว่ำ ระบบจะโทรหาบริการฉุกเฉินพร้อมแจ้งเตือนผู้เป็นบุคคลฉุกเฉินที่คุณตั้งเอาภายใน 10 วินาทีหากคุณไม่กดแจ้งว่าคุณปลอดภัยดี โดยสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบแรง การชน หรือการลดความเร็วแบบฉับพลันด้วยแรง g ได้สูงสุดถึง 256g

แต่น่าเสียดายว่าฟีเจอร์นี้ยังไม่สามารถใช้ในประเทศไทยได้

Emergency SOS via Sattellite 

ฟีเจอร์ Emergency SOS via Sattellite หรือขอความช่วยเหลือ SOS ผ่านดาวเทียมของ iPhone 14 Pro ช่วยให้คุณติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wifi มีการแสดงตำแหน่งว่าต้องหัน iPhone 14 Pr ไปทิศทางไหนเพื่อเชื่อมต่อกับดาวเทียม มีแบบประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ฉุกเฉินและส่งข้อมูลเหล่านั้นก่อนส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมทั้งส่งตำแหน่งพิกัดของคุณได้ รองรับทั้งการส่งข้อความและโทรขอความช่วยเหลือ

ขั้นแรกจะเปิดบริการในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาก่อน และฟรีค่าบริการ 2 ปี 

ชิป A16 Bionic

ชิป A16 Bionic ช่วยให้ iPhone 14 Pro ทำงานได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานตลอดวัน ประมวลผลงานหนัก ๆ ได้ไว เล่นเกมและแอพหนัก ๆ ได้สบาย เพราะมาพร้อม GPU แบบ 5-core แบนด์วิดท์หน่วยความจำที่มากขึ้นถึง 50% ประมวลผลได้เกือบ 17 ล้านล้านรายการต่อวินาที 

ชิป A16 Bionic ยังช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้น เพราะช่วยเรื่องการประมวลผลภาพถ่าย โดย CPU, GPU, Neural Engine และโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพจะทำงานร่วมกัน ประมวลผลได้สูงสุด 4 ล้านล้านรายการต่อภาพ

การเชื่อมต่อ

iPhone 14 Pro รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G และใช้ระบบ eSim ไม่มีถาดใส่ซิมการ์ด โดยจะเริ่มที่ iPhone 14 Pro ซึ่งจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ 


ขนาด สี และความจุ

iPhone 14 Pro และ Pro Max มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 6.1 และ 6.7 นิ้ว พร้อมกับหน้าจอที่แข็งแกร่งด้วย Ceramic Shield 

ส่วนสี iPhone 14 Pro และ Pro Max มีให้เลือก4 คือทั้งสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีใหม่ล่าสุด สีเงิน สีทอง และสีดำสเปซแบล็ก มีความจุให้เลือกทั้ง 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB 

แต่…iPhone 14 Pro และ Pro Max ยังคงใช้สายชาร์จแบบเดิม คือ Lighting ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็น USB-C แต่อย่างใด แงงงง

สรุปภาพรวมทั้งหมดของ iPhone 14 Pro และ Pro Max แบบย่อในภาพเดียวค่ะ 

เท่านั้นยังไม่พอ Apple ยังบอกอีกว่าใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต iPhone 14 Pro และ Pro Max เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุดอีกด้วย 

ราคาและวันวางจำหน่าย

iPhone 14 Pro และ Pro Max เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้วันที่ 9 กันยายน และวางจำหน่ายวันที่ 16 กันยายน โดยประเทศไทยได้ขยับมาอยู่ใน Tier 1 แล้ว ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป 

ราคา iPhone 14 Pro

  • 128GB ราคา 41,900 บาท
  • 256GB ราคา 45,900 บาท
  • 512GB ราคา 54,900 บาท
  • 1TB ราคา 63,900 บาท

ราคา iPhone 14 Pro Max

  • 128GB ราคา 44,900 บาท
  • 256GB ราคา 42,900 บาท
  • 512GB ราคา 53,900 บาท
  • 1TB ราคา 66,900 บาท

สั่งซื้อได้ apple.com/th/store