แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

Apple เปิดตัว iPadOS ที่มาพร้อม Home แบบใหม่ และการทำงานแบบ Multitasking อันทรงพลัง!   

iPadOS ก็มา! คงถูกใจสาวก iPad เป็นแน่ เพราะเมื่อมี OS เป็นของตัวเอง ประสิทธิภาพการทำงานต่าง ๆ ก็ไร้ข้อจำกัดมากยิ่งขึ้น และการไร้ข้อจำกัดคือเหตุผลที่ Apple ตัดสินใจสร้าง OS แยกออกมาสำหรับ iPad ต่างหากจากที่เคยใช้ร่วมกับ iOS 

ขอบอกไว้ก่อนว่า แม้จะทำ OS แยกออกมา แต่ iPadOS มีฟีเจอร์เด่น ๆ ของ iOS 13 ด้วย เพราะเป็นการพัฒนามาจากรากฐานเดียวกับ iOS 13 ทั้ง Dark Mode, Photos, Sign In with Apple, Maps รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น ไวขึ้น และน่าทึ่งกว่าเคย  

แต่ iPadOS เด็ดกว่าตรงที่ฟีเจอร์ตอบโจทย์การทำงานบน iPad มากขึ้น เพราะผสมผสานฟีเจอร์ที่คล้ายกับการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามา การใช้ทำงานจึงลื่นไหลไร้จุดสะดุดยิ้งขึ้น   

  Home screen แบบใหม่ 

เพิ่ม Today View และ widgets ต่าง ๆ ไว้ที่ Home Screen ได้เลย สามารถมองข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นได้ภายในเสี้ยววินาที ทั้งพาดหัวข่าว รายงานสภาพอากาศ ปฏิทิน นัดหมาย และทิปส์ต่าง ๆ   

Split View และ Slide Over เพิ่มลูกเล่น  

  • Split View เวอร์ชันที่ดีกว่า เพราะก่อนหน้านี้ะถูกกำหนดว่า 1 แอพเปิดได้เพียง 1 หน้าต่าง ไม่สามารถเปิดแอพเดียวกัน 2 หน้าต่างพร้อมกัน แต่ว่าตอนนี้ทำได้แล้วค่ะ เราสามารถเปิดแอพเดียวกันพร้อมกันได้ 2 หน้าต่างได้แล้ว เช่น เปิดไฟล์ Excel พร้อมกัน 2 ไฟล์ ง่ายต่อการ Copy/Paste จริง ๆ เลย 
  • Slide Over ช่วยให้เราสลับใช้งานจากแอพหนึ่งไปยังอีกแอพหนึ่งได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น เช่น เขียนอีเมลหลักอยู่พร้อมทั้งเปิดดูอีเมลอีกอันเทียบไปด้วยในหน้าต่างข้าง ๆ กัน และหากต้องการใช้งานข้ามแอพ ก็แค่สไลด์นิ้วไปด้านข้างหรือด้านบน เพื่อเลือกใช้งานแอพที่เปิดคู่กันไว้อยู่หรือที่ซ่อนไว้ได้ไวขึ้น

แอพ Files ฉบับปรังปรุงใหม่ 

IPadOS ช่วยให้เราจัดการไฟล์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเหมือนใช้ macOS อยู่เลยทีเดียว  

  • แสดงภาพรวมแบบ Column View เหมือน Finder ในเครื่อง Mac พร้อมแสดงข้อมูลของไฟล์นั้น ๆ  รวมไปถึงแก้ไขข้อมูลได้ด้วย  
  • iCloud Drive รองรับ Folder Sharing ผู้มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์นี้จะเห็นข้อมูลอัพเดตใหม่ล่าสุดเสมอ  
  • เชื่อต่อมกับไดรฟ์ภายนอก ต่อเข้ากับ USB Flash Drive, การ์ด SD, แชร์ไฟล์แบบ SMB รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับกล้องโดยตรง เพื่อนำรูปถ่ายเข้ามายัง iPad แล้วส่งไปยังแอพเช่น Lightroom ได้ ไม่ต้องผ่าน Siri Shortcut อีกต่อไป  
  • zip และ unzip ไฟล์ได้เลย 
  • ใช้งานปุ่มลัดคีย์บอรด์ได้   

Safari ที่แสดงผลแบบเดียวกับการใช้บนคอมพิวเตอร์ 

  • Safari แสดงหน้าตาเว็บไซต์เช่นเดียวกับที่แสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้โดยอัตโนมัติ ไม่ใช่แสดงแบบในมือถืออีกต่อไป ซึ่งถือว่าดีมากเลย เพราะหน้าจอของ iPad ก็ใหญ่พอ ๆ กับหน้าจอ Mac อยู่แล้ว เหมาะกว่าใช้เวอร์ชันมือถือ 
  • มี scroll bar เหมือน Mac เมื่อเจอหน้าเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์ยาว ๆ ก็ลากขึ้นลงได้ง่ายดาย 
  • ใช้งานแอพเว็บอย่าง Google Docs, Squarespace และ  WordPress ไหลลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถูกใจสายทำงานด้านเอกสารและเว็บไซต์มากขึ้นจริง ๆ  
  • มี Download Manager สามารถดาวน์โหลดไฟล์ต่าง ๆ เก็บไว้ในเครื่อง พร้อมทั้งแสดงประวัติการดาวน์โหดลได้อีกด้วย 

แก้ไขข้อความได้ง่ายขึ้น   

การแก้ไขหรือคัดลอกข้อความทำได้ง่ายมากขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น แค่เลือกข้อความที่ต้องการด้วยการเลื่อนนิ้วไปมา และตัด คัดลอก วาง และยกเลิก (undo) ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้นิ้วสามนิ้ว  

 Apple Pencil   

  • ลดความหน่วงลงไปเยอะมาก จาก 20ms เหลือเพียงแค่ 9ms  
  • ใช้งานเครื่องมือมาตรฐานของ Apple Pencil ร่วมกับแอพอื่น ๆ ได้
  • Screenshot ง่ายขึ้น เพียงแค่ลาก Pencil จากมุมใดมุมหนึ่งของจอ จากนั้นก็เริ่มเขียนข้อความและแก้ไขได้เลย  

 ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ 

  • คีย์บอร์ดแบบ floating ขนาดเล็ก ไม่บดบังหน้าจอ ลากไปวางตรงไหนของหน้าจอก็ได้ และยังพิมพ์ด้วยมือเดียวได้ด้วย 
  • เพิ่ม font ได้ งานจะปังเพราะมี font ดี ๆ สวย ๆ ให้เลือกใช้มากขึ้น 

รุ่นที่สามารถใช้ iPadOS ได้คือ 

  • 12.9-inch iPad Pro รุ่นที่ 1-3 
  • 11-inch iPad Pro 
  • 10.5-inch iPad Pro 
  • 9.7-inch iPad Pro 
  • iPad รุ่นที่ 5-6 
  • iPad Air 2-3 
  • iPad mini 4-5 

 

ใครที่ยังไม่มี iPad ในครอบครอง อ่านจบแล้วก็คงอยากได้มาเป็นเจ้าของสักตัวแน่ ๆ ค่ะ  

 

ที่มา theverge.com และ apple.com