Apple เปิดตัว iPad Pro อัพเกรดด้วยชิป M2 ใหม่ ถ่ายวิดีโอแบบ ProRes, Wifi 6E และเพิ่มความสามารถไปอีกขั้นเมื่อใช้ Apple Pencil
iPad Pro ตัวใหม่ใช้ชิป M2 ที่แรงที่สุดในตอนนี้ ทั้งยังใช้ CPU แบบ 8-core จึงเร็วกว่าชิป M1 มากขึ้น 15% แถมยังประหยัดพลังมากขึ้นอีกด้วย ส่วน GPU แบบ 10-core ยังช่วยให้ทำงานด้านกราฟิกเร็วยิ่งขึ้นถึง 35% และประสิทธิภาพโดยรวมนำหน้า iPad Pro เดิมไปมากถึง 40% สมกับคำว่า Pro จริง ๆ
ซึ่งถ้าถามว่าแรงขนาดนี้มันดียังไงน่ะเหรอ ก็ดีตรงที่สามารถใช้ iPad Pro M2 ทำงานหนัก ๆ ที่ต้องโหลดเวิร์กโฟลเยอะ ๆ ได้สบายเลยน่ะสิ
เช่นแอพ DaVinci Resolve, Adobe Photoshop, Affinity Publisher 2 iPad, Octane X, uMake และอื่น ๆ ซึ่งแอพเหล่านี้ถือเป็นแอพระดับโปรที่มือโปรใช้ทำงาน
iPad Pro M2 ถ่ายวิดีโอแบบ ProRes ได้อีกด้วย แถมยังมาพร้อมลำโพงระดับสตูดิโออีก 5 ตัว ระบบเสียง 4 ลำโพงที่รองรับ Dolby Atmos คมชัดทั้งภาพและเสียงกันไปเลย
ที่พูดมายังไม่หมด เพราะชิป M2 ยังช่วยให้คุณเข้ารหัสและถอดรหัส ProRes ได้เร็วขึ้น แปลงโปรเจกต์วิดีโอเป็น ProRes ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า แรงเวอร์มาก
จอภาพ iPad Pro M2 มีขนาด 12.9 นิ้ว ใช้จอแบบ Liquid Retina XDR ไม่ต้องห่วงเรื่องความคมชัดแต่อย่างใด กริบมาก ให้รายละเอียดของสีสันได้คมชัดมากยิ่งกว่ามากเสียอีก
หน้าจอยังมีขอบเขตสีกว้างแบบ P3, True Tone และ ProMotion ซึ่งเวลาดูภาพหรือวิดีโอความละเอียดสูงก็จะคมชัดมาก บอกเลยว่าถ้าได้ใช้จอระดับโปรแล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปใช้จอธรรมดาอีกเลย แถมหน้าจอยังบางเฉียบเพียง 6.4 มม. เท่านั้น บางมากจริง ๆ
เพราะหน้าจอ Liquid Retina XDR มีอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 จึงแสดงสีสันให้ชัดเจนทุกจุด ค่าสีละเอียดและสว่างชัดเจนด้วยความสว่างถึง 1,000 นิต และมีความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดที่ 1,600 นิต
สรุปง่าย ๆ คือจุดที่มืดจะมืดมาก และจุดที่สว่างก็จะสว่างมาก แม้ภาพนั้นจะออกเป็นโทนสีดำหรืออยู่ในที่มืด แต่ก็ยังมองเห็นรายละเอียดชัดเจนอยู่ ไล่ความสว่างของสีได้ดี ไม่กลายเป็นก้อนสีดำปื้น ๆ อีกต่อไป
ประสิทธิภาพของ iPad Pro M2 มีมากถึงขั้นที่สามารถสร้างงานออกแบบ 3D และโมเดล AR ที่มีความซับซ้อนและใช้พลังงานของเครื่องสูงมากได้ด้วย แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ทั้งวัน
iPad Pro M2 มาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และแน่นอนว่ามีสแกนเนอร์ LiDAR จะวัดระยะเวลาที่แสงใช้ในการสะท้อนกลับมาจากวัตถุมาด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์มากเมื่อใช้งานกับ AR และยังทำงานร่วมกับ ISP เพื่อโฟกัสภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น
ส่วนกล้องหน้ามี TrueDepth ปลดล็อค iPad ด้วย Face ID และยังมีฟีเจอร์ ‘จัดให้อยู่ตรงกลาง’ หรือ Center Stage ที่คอยตามล็อกหน้าคุณให้อยู่ตรงกลางจอไม่ว่าคุณจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปไหน
Apple Pencil ก็มีฟีเจอร์ใหม่ด้วยเช่นกัน เมื่อคุณยกปลาย Apple Pencil ขึ้นจะมีจุดแสดงให้คุณเห็นเป๊ะ ๆ เลยว่า Apple Pencil จะสัมผัสลงตรงไหนบนหน้าจอภาพ นอกจากนี้แอพและ Widget บนหน้าจอ Home ก็จะขยายออกเมื่อคุณเลื่อน Apple Pencil ไปอยู่ด้านบน ทำให้เห็นตำแหน่งก่อนแตะ หรือดูว่าสีน้ำที่ผสมจะออกมาเป็นอย่างไรก่อนระบาย ทำให้ใช้ Apple Pencil ง่ายยิ่งกว่าเดิม
iPad Pro ใหม่รองรับการเชื่อมต่อ Wifi แบบ Wifi 6E ซึ่งถือว่าเร็วที่สุด ณ ตอนนี้ การทำงานต่าง ๆ จึงลื่นไหล ส่วนใครที่ใช้รุ่น Cellular ก็มาพร้อม 5G (sub-6GHz และ mmWave4) ติดต่อได้อย่างรวดเร็ว แม้เดินทางอยู่ก็หมดห่วง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการสัญญาณด้วยเช่นกันฃ
iPad Pro M2 มีให้เลือก 2 สีคือ Silver (เงิน) และ Space Grey (เทาสเปซเกรย์) มีความจุให้เลือกทั้งขนาด 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว
- รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท
- Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว
- รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาท
- รุ่น Wi-Fi + Cellula ราคาเริ่มต้นที่ 50,900 บาท
สั่งซื้อได้ที่ apple.com เร็ว ๆ นี้