Apple เปิดตัว iPad Pro ใหม่แล้วเมื่อคืนนี้ในงานอีเวนต์ Spring Loaded บอกเลยว่าอัพเกรดเพียบจนคุณต้องตะลึง ทั้งชิป M1 จอภาพ Liquid Retina XDR รองรับ 5G มีพอร์ต Thunderbolts ระบบกล้อง TrueDepth ใหม่ และ Magic Keyboard สีใหม่
อัพเกรดแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ชิป M1 ที่มันปังมากกกก ตัวเดียวกับที่ใช้ใน MacBook Air และ Pro รุ่นปัจจุบันเลยค่ะ เรียกว่าก้าวกระโดดมาก ๆ ทำให้ iPad Pro ของคุณทำงานเร็วกว่าเดิม และยังทำงานได้หนักกว่าเดิมด้วยนะคะ
จะออกแบบงานที่ใช้เลเยอร์เยอะ ๆ งาน 3 มิติ พวกโปรแกรมออกแบบที่ว่าหนักเครื่อง ต้องใช้เครื่องสเปกแรง ๆ ก็เอาอยู่ แถมยังตัดต่อวิดีโอระดับ 4K ได้ งานที่ต้องใช้ระบบประมวลผลมากขนาดนี้ iPad Pro ก็เอาอยู่นะคะ
อีกจุดเด่นหนึ่งที่เห็นแล้วต้องกรี๊ดเลยก็คือหน้าจอ! iPad Pro รุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว ได้อัพเกรดหน้าจอเป็น Liquid Retina XDR แบบ mini-LED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ใช้ไฟกว่า 10,000 ดวงที่ติดไว้ด้านหลังจอภาพ จึงสว่างสูงถึง 1,000 นิต, ความสว่างสูงสุด 1,600 นิต และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1
คำศัพท์เทคนิคอาจจะดูเยอะหรือทำให้งง เอาเป็นว่าประสิทธิภาพสูงมาก ความมืดความสว่างชัดเจน ดูหนังหรือไฟล์ภาพที่มีบริเวณที่เข้มก็จะยังเห็นรายละเอียดในความมืดนั้นชัดเจนอยู่ค่ะ ไม่เป็นปื้น ๆ สีดำไปซะทั้งหมด
ส่วนหน้าจอของรุ่น 11 นิ้วเป็นหน้าจอแบบ Liquid Retina XDR ธรรมดานะคะ ไม่ได้เป็น mini-LED ค่ะ
แต่ iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีเทคโนโลยี ProMotion การแสดงผลแบบ True Tone และการรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 เอาเป็นว่าคมชัดระดับเดียวกับดูหนังในโรงภาพยนตร์เลยละค่ะ
เทียบกับหน้าจอ Liquid Retina XDR ของ Mac Pro แล้ว iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว บางกว่ามาก ๆ เลยค่ะ
กล้องของ iPad Pro ก็ปรับความเจ๋งขึ้นมากเยอะเช่นกัน โดยมีกล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล และอัลตราไวด์ 10 ล้านพิกเซล ละเอียดคมชัด
แต่สิ่งที่เจ๋งขั้นสุดคือ สแกนเนอร์ LiDAR ค่ะ เซนเซอร์วัดระยะชัดลึกออกแบบมาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น สามารถใช้งาน AR ได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณวาดงานออกแบบสักชิ้น คุณก็สามารถใช้ LiDAR ช่วยให้มองเห็นว่าภาพนั้นจะอยู่บนชิ้นงานจริงแล้วเป็นอย่างไร
วาดงานสเกลใหญ่อย่างการออกแบบสะพานแล้วลองทาบกับพื้นที่จริงได้เลย LiDAR จะวางงานคุณให้เห็นตรงตำแหน่งนั้น ๆ
ที่เริดกว่านั้นก็คือ LiDAR สามารถวัดระยะของคนหรือวัตถุได้ดีกว่าเดิม คุณกับเพื่อนสามารถใส่แอฟเฟต์ลงบนวิดีโอได้โดยที่เอฟเฟกต์พวกนั้นจะไม่บังคุณเลย มันจะอยู่จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม เพราะระยะที่แม่นยำ
แถมยังไว้วัดความเร็วของวัตถุที่เคลื่อนที่อยู่ได้ด้วยนะ เช่น การตีเทนนิสและหาว่าลูกบอลเคลื่อนที่เร็วและแรงแค่ไหน
ส่วนฟีเจอร์นี้ต้องยอมให้เลยจริง ๆ เหมาะกับการทำงาน Work From Home ที่ต้องเปิดกล้องประชุมมาก ๆ ค่ะ เพราะกล้องอัลตร้าไวด์มีฟีเจอร์ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” เมื่อคุณวิดีโอคอล ไม่ว่าคุณจะขยับไปตรงไหน กล้องก็จะปรับให้ภาพคุณอยู่ตรงกลาง
แถมถ้ามีใครโผล่มาข้างหน้าคุณ กล้องก็จะโฟกัสและปรับให้เขาอยู่ตรงกลางให้เลย ไม่จำเป็นต้องขยับ iPad ให้เคลื่อนตามแล้วละ
ถ้าคุณต้องย้ายไฟล์ใหญ่ยักษ์หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ ละก็ iPad Pro ก็จัดให้ได้ เพราะมาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt ที่เร็วราวสายฟ้า ใช้ร่วมกับพอร์ต USB-C ที่มีอยู่แล้วได้เลย ต่อจอภาพ แท่นวาง ฮาร์ดดิสก์ ต่อจอ Pro Display XDR ความละเอียด 6K ก็ได้ ไฟล์ยักษ์ใหญ่ขนาดไหนก็หายห่วง
iPad Pro ใหม่รองรับการใช้งาน 5G ด้วยนะคะ ส่งผลให้ใช้งานวิดีโอคอลได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม สตรีมวิดีโอความละเอียดสูงได้อีกด้วย การพก iPad ไปทำงานนอกบ้านก็จะเป็นเรื่องง่ายสบาย ๆ แล้วค่ะ
iPad Pro ใหม่ยังรอบรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่น 2 ค่ะ ที่สำคัญเลยก็คือฟีเจอร์ Scribble เขียนด้วยลายมือแล้วแปลงเป็นลายพิมพ์ยังรองรับภาษาใหม่ ๆ อีกด้วยค่ะ แต่ก็ยังยกเว้นภาษาไทยอยู่ดี
อุปกรณ์เสริมใหม่ของ iPad Pro ใหม่ก็มาค่ะ เป็น Magic Keyboard สีขาวสวยสะดุดตาค่ะ ดูดีดูหรูจริง ๆ
iPad Pro ใหม่เปิดให้จับจองกันแล้วค่ะ แต่สินค้าจริงจะมาช่วงกลางเดือนพฤษภานะคะ
- iPad Pro 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 27,9000 บาท
- iPad Pro 12.9 นิ้ว เริ่มต้นที่ 37,9000 บาท
หากต้องการดูเพิ่มเติม สามารถชมได้ที่ apple.com/th/ipad-pro