เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้า Apple ก็ปล่อย iPad รุ่นเริ่มต้น ขนาด 10.2 นิ้ว เจเนเรชัน 9 ออกมาค่ะ เครื่องแรง ประสิทธิภาพสูง ในราคาเบา ๆ
iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 นี้ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นค่ะ ราคาประหยัด เหมาะสำหรับการเรียนออนไลน์หรือใช้งานทั่วไป แต่ว่าบอกเลยว่ากลับมารอบนี้ เพิ่มความแรงด้วยชิป A13 Bionic การทำงานจึงแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 20%
นอกจากนี้ Neural Engine ในชิป A13 Bionic ยังเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนความสามารถด้านการเรียนรู้ของระบบของอุปกรณ์ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ (Ultra-Wide) ความละเอียด 12MP ของ iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 มาพร้อมฟีเจอร์ ‘จัดให้อยู่ตรงกลาง’ ซึ่ง iPad รุ่นอื่น ๆ ก็ได้อัพเดตไปแล้วเช่นกัน เรียกว่าตามรุ่นใหญ่ไปติด ๆ
ฟีเจอร์ ‘จัดให้อยู่ตรงกลาง’ โดยกล้องจะปรับโฟกัสไปยังบุคคลที่อยู่ในรัศมีค่ะ หากขยับไปไหน กล้องก็จะจับตามไป และหากมีคนอื่นเพิ่มเข้า กล้องก็จะปรับเฟรมให้กว้างขึ้นเพื่อให้ทั้งคู่อยู่ในเฟรมค่ะ เวลา FaceTime ก็ไม่ต้องวุ่นวายขยับ iPad เองค่ะ
เมื่อ iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 ทำงานคู่กับ iPadOS งานทำงานบนตัวเครื่องก็จะง่ายขึ้น เหมือกับเป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กเลยละค่ะ ทั้งการทำงานแบบ Multitasking ช่วยแบ่งการทำงานแบบหลายหน้าจอได้ค่ะ
นอกจากนี้หน้าจอ iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 ยังแสดงผลแบบ True Tone ปรับแสงสีให้เข้ากับสภาพแสงในห้อง ทำให้รูปภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
แน่นอนว่า iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 ยังคงทำงานคู่กับ Apple Pencil รุ่น 1 นะคะ ซึ่งมันจะช่วยเปลี่ยนให้ iPad กลายเป็นสมุดโน้ตพกพาสะดวกที่มากประโยชน์สุด ๆ ไปเลยค่ะ
iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 ก็ยังคงใช้งานกับ Smart Keyboard ได้นะคะ แถมยังรองรับ 5G ดังนั้นพกไปทำงานข้างนอกได้สบายเลย ยิ่งแบตเตอรี่อยู่ได้นานทั้งวันแบบนี้หายห่วงได้เลยค่ะ
iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 มี 2 สีให้เลือกเช่นเคย คือเงินและสีเทาสเปซเกรย์ แต่รอบนี้มีความพิเศษตรงความจุค่ะ เพราะมีความจุมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าค่ะ ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะเก็บแอพ ภาพ วีดีโอ หรือไฟล์งานไม่พอ
iPad 10.2 นิ้ว รุ่น 9 มีราคาตามนี้ค่ะ
- รุ่น Wi-Fi 64GB ราคา 11,400 บาท
- รุ่น Wi-Fi 256GB ราคา 16,900 บาท
- รุ่น Wi-Fi+Cellular 64GB ราคา 16,400 บาท
- รุ่น Wi-Fi+Cellular 256GB ราคา 21,900 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> apple.com ส่วนวันวางจำหน่ายยังไม่ประกาศค่ะ แต่คาดว่าเร็ว ๆ นี้