Google ได้อัพเดต App Privacy Label หรือฉลากแสดงแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัว เข้าไปยังแอพ Gmail แล้ว
ซึ่งสิ่งนี้จะระบุว่าแอพนี้จะเข้าถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัวอะไรบ้างเมื่อคุณใช้งาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งอัพเดตในส่วนของแอพ YouTube ไป
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ แอพ Gmail ถูกขึ้นป้ายแจ้งเตือนว่าตัวแอพไม่ได้อัพเดตมาเป็นเวลานาน แต่แล้ว Google ก็จัดการลบป้ายแจ้งเตือนนั้นทิ้งไปทั้ง ๆ ที่ไม่เพิ่มการอัดเตดใหม่ ๆ เข้ามาแม้แต่อย่างเดียว
สำหรับกฎ App Privacy Label นี้ Apple ได้บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ Google ก็ชะลอการอัพเดตนี้มาเรื่อย ๆ ด้วยการแจ้งว่าจะอัพเดตในสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ข้างหน้า จนวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านก็ยังไม่ได้อัพเดตใด ๆ ของแอพต่าง ๆ ของ Google
แม้ว่า Google จะเพิ่ม App Privacy Label เข้ามาในแอพอย่าง YouTube และแอพอื่น ๆ บ้างแล้ว แต่แอพหลักอย่าง Google Search, Google Photos และ Google Maps ก็ยังไม่ได้มีการเพิ่มเติมข้อมูลใด ๆ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ที่แอพ Gmail ได้รับการอัพเดตข้อมูลส่วนนี้
แต่เมื่ออัพเดต App Privacy Label แล้ว ก็เป็นไปตามคาด เพราะว่า App Privacy Label แอพ Gmail ระบุการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวไว้เพียงแต่ ตำแหน่งของคุณ, ID ผู้ใช้งาน ข้อมูลที่ใช้สำหรับนำไปแชร์ให้กับบริษัทพาร์ทเนอร์ที่รับลงโฆษณา การซื้อ ข้อมูลติดต่อ ประวัติการค้นหา มูลการยืนยันตัวตน ข้อมูลการใช้งานเพื่อนำไปวิเคราะห์สถิติ การใช้งานแอพ
แต่ทั้งนี้การอัพเดตที่ว่ากลับเป็นเพียงการบอกให้ผู้ใช้งานรับรู้ว่า Gmail เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอะไรบ้าง โดยบอกผ่าน App Privacy Label ที่ Apple บังคับใช้งาน ไม่ได้อัพเดตการทำงานใหม่ ๆ ของแอพแต่อย่างใด
คาดว่าหลังจากนี้ Google จะทยอยอัพเดต App Privacy Label ของแอพอื่น ๆ ด้วย หากว่าเพื่อน ๆ อยากรู้ว่าแอพดึงข้อมูลอะไรเราไปบ้างตอนใช้งาน ก็สามารถเข้าไปเช็กได้ที่ App Privacy Label ซึ่งจะแปะอยู่ที่หน้าแอพเหล่านั้น เข้าไปดูได้ที่ App Store ได้เลยค่ะ
App Privacy Label คืออะไร
App Privacy Label คือ ‘ฉลากแสดงแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัว’ ที่ Apple บังคับให้แอพต่าง ๆ ใส่เข้ามาในหน้าสำหรับดาวน์โหลด เพื่อแจ้งผู้ใช้งานว่า แอพนี้จะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอะไรของผู้ใช้บ้าง และเก็บข้อมูลอะไรไปบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับทราบและใช้ตัดสินใจก่อนจะดาวน์โหลดลงเครื่อง
App Privacy Label จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
- ข้อมูลการใช้งานของคุณ ข้อมูลสามารถใช้ตามรอยคุณได้ เช่น การเข้าแอพ เว็บไซต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ การดูโฆษณา และจะแจ้งให้คุณทราบหากว่าบริษัทเหล่านั้นนำข้อมูลเหล่านี้ไปขายต่อ
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ เพส และอื่น ๆ ซึ่งมักใช้เมื่อสมัครสมาชิกสร้างบัญชีต่าง ๆ
- ข้อมูลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวใด ๆ
โดยทุกแอพต้องทำ App Privacy Label นี้ ไม่ว่าจะเป็นแอพสำหรับ iPhone, iPad, Mac, Apple Tv หรือ Apple Watch เริ่มตั้งแต่ iOS 14.3, iPadOS 14.3 และ macOS Big Sur 11.1 รวมถึงแอพของ Apple อย่าง Camera, Clock, Health, Messages, Phone, Photos และ Safari ก็ต้องทำ App Privacy Label ด้วยเช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้น
สาเหตุที่ Apple ตัดสินใจบังคับใช้ App Privacy Label ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่าถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้งานอย่างไร และเพื่อเน้นเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ Apple พยายามทำมาตลอดอีกด้วย
ที่มา macrumors.com (1) และ macrumors.com (2)