สรุปแบบสั้นๆ คือ “ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว”
การชาร์จไร้สาย
ระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charging) มีมาได้ซักพักแล้ว โดยในช่วงแรกอาจพบปัญหาชาร์จช้าบ้าง แต่ในปัจจุบันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะเทียบเท่ากับชาร์จแบบมีสายแล้ว (แต่ก็ยังไม่เร็วเท่าชาร์จแบบสายผ่านระบบ Quick Charge นะครับ)
การชาร์จไร้สายเริ่มฮิตขึ้นมากเมื่อทาง Apple ออกมือถือรุ่นใหม่ทีรองรับขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว ผ่านทางมาตรฐาน Qi โดยเริ่มตั้งแต่ iPhone 8 ขึ้นไป ซึ่ง iPhone ทั้งหมดที่รองรับชาร์จไร้สายในปัจจุบันคือ 8, X, XR, XS และ XS Max
การชาร์จไร้สายมีข้อดีเด่นๆ คือไม่ต้องคอยเสียบสายชาร์จ หรือไม่ต้องจัดการสายให้ยุ่งยาก แค่วางมือถือลงบนแท่น ก็ชาร์จได้ทันที แต่ก็เริ่มมีการพูดถึงข้อเสียของมันในด้านการทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อมเร็วขึ้น ซึ่งจริงหรือไม่ ลองมาดูคำตอบกัน
แบตเตอรี่มือถือทำงานอย่างไร?
มือถือในปัจจุบันนี้ใช้แบตเตอรี่ประเภท ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) เซลล์ของแบตเตอรี่ประกอบด้วยอีเล็คโทรด (Electrode) 2 ชนิดคือ แคโทด (Cathode) และ แอโนด (Anode) โดยมี ประจุอีเล็คโทรไลต์ (Electrolyte) อยู่ในระหว่าง 2 เซลล์นี้ เมื่อมีการชาร์จไฟ อีเล็คโทรไลต์ จะเดินทางจากขั้วบวกไปขั้วลบ และเมื่อใช้งานก็จะเดินทางจากขั้วลบไปขั้วบวก
ผู้ผลิตแบตเตอรี่จะเป็นคนกำหนดว่าในแต่ละเซลล์จะเก็บพลังงานได้เท่าไหร่และกำหนดว่าแบตเตอรี่จะให้พลังงานเราใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ อุปกรณ์จะถูกกำหนดแรงดันไฟ (Voltage) เอาไว้ว่าจะรับแรงดันไฟได้ไม่เกินเท่า หรือห้ามต่ำกว่าเท่าไหร่ โดยค่าตรงนี้จะถูกกำหนดมาตายตัวโดยผู้ผลิตอุปกรณ์ ถ้าใช้งานตามปกตินี้ แบตเตอรี่จะมีรอบการชาร์จ (Cycle) ได้มากกว่าหนึ่งพันรอบเลยทีเดียว
และด้วยข้อกำหนดตรงนี้เอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่การเสียบชาร์จหรือวางบนแท่นชาร์จไร้สายทิ้งไว้ทั้งคืนจะทำอันตรายต่อแบตเตอรี่
รอบการชาร์จของแบตเตอรี่?
แบตเตอรี่แต่ละก้อนก็จะมีมาตรฐานที่ต่างกันออกไป … [อ่านต่อ]