Apple เปิดตัว iPadOS 17 ตัวใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมการออกแบบ Lock Screen แบบใหม่ วิตเจ็ตแบบโต้ตอบ ฟีเจอร์สำหรับ PDF อัพเดตแอพ Notes, FaceTime, Safari และอื่น ๆ อีกมากมาย!
Lock Screen ปรับแต่งได้
และแล้ว iPad ก็สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอ Lock Screen ได้ตามใจชอบแล้ว เลือกปรับแต่งโดยเน้นความเป็นส่วนตัว มีประโยชน์ หรือสวยงามได้ คุณสามารถเลือกรูปภาพจาก Photos หรือตั้งค่าเป็น Live Photos ให้เคลื่อนไหวตลอดทั้งวันก็ได้ ทั้งยังสามารถปรับแต่งตัววันที่และเวลาได้ เลือกฟอนต์ สีสัน และขนาดได้ตามต้องการ เพิ่มเติมความน่ารักด้วยอิโมจิและเซตโทนสีที่ชอบได้
นอกจากนี้ยังเลือกเพิ่ม Live Activities หรือกิจกรรมสด เช่น ผลการแข่งขันกีฬา แผนการเดินทาง การจัดส่งอาหาร มาไว้ที่หน้า Lock Screen ได้เช่นกัน เพื่อความสะดวกในการติดตามข้อมูลข่าวสารแบบสด ๆ
วิดเจ็ต (Widget) แบบตอบโต้
วิดเจ็ต (Widget) แบบตอบโต้ จะช่วยให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ ได้เพียงแต่แตะ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในแอพนั้น ๆ เพื่อทำสิ่งเหล่านั้น คุณสามารถทำได้บนวิดเจ็ตเลย เช่น เปิดไฟ เล่นเพลง ทำเครื่องหมายบนรายการเตือนความจำว่าได้ทำเสร็จแล้ว
นอกจากนี้วิดเจ็ตแบบตอบโต้ที่อยู่บนหน้าจอ Lock Screen และ Home Screen นี้ยังช่วยแสดงข้อมูลให้คุณเห็นอย่างชัดเจนเพียงแค่เหลือมอง ไม่จำเป็นต้องกดเข้าแอพเพื่อดูข้อมูลต่าง ๆ และวิดเจ็ตเหล่านี้ยังออกแบบให้กลมกลืนไปกับโทนสีพื้นหลังและปรับให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ป้อนข้อมูลบน PDF ได้ง่ายขึ้น
iPadOS 17 เพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้ป้อนข้อมูลบนไฟล์ PDF ได้ง่ายขึ้น เพิ่ม Auto fill ช่วยกรอกข้อมูลจากแอพรายชื่อ เช่น ชื่อ ที่อยู่ และอีเมล ลงในช่องต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ใช้ Machine Learning มองหาช่องกรอกข้อมูลที่อยู่บนไฟล์ PDF ได้เอง จึงทำให้การกรอกข้อมูลบนเอกสารง่ายกว่าเดิม
แอพ Notes ทำงานร่วมกับ PDF
แอพ Notes อัพเดตใหม่ คุณสามารถอ่าน ใส่คำอธิบายประกอบ และทำงานร่วมกับไฟล์ PDF ได้ โดยไฟล์ PDF จะแสดงแบบเต็มความกว้าง พลิกไปยังหน้าต่าง ๆ ได้ง่าย ใส่คำอธิบายและวาดภาพลงไปได้ง่าย ๆ ด้วย Apple Pencil และยังสแกนเอกสารผ่านแอพ Notes ได้
ยังไม่พอ เพราะคุณยังสามารถทำงานบนแอพ Notes ร่วมกับคนอื่น ๆ ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
แอพ Messages
แอพ Messages หรือข้อความ เพิ่มความสนุกขึ้นไปอีกขั้นเพราะคุณสามารถสร้าง Live Sticker จากรูปภาพของตัวเองได้ ใส่เอฟเฟกต์ และยังแชร์ไปใช้กับแอพอื่น ๆ ได้
ฟีเจอร์ Search หรือค้นหา ได้ปรับปรุงใหม่ให้มีตัวกรองเพิ่มขึ้น เช่น ผู้คน คีย์เวิร์ด และประเภทเนื้อหา คุณจึงค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ละเอียดกว่าเดิม
คุณสามารถข้ามไปยังตำแหน่งล่าสุดที่อ่านข้อความค้างไว้ในกลุ่มแชตได้ง่ายขึ้น และตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิมได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วยการปัดนิ้วที่ข้อความนั้น ๆ
ส่วนอีกฟีเจอร์ที่ดีมากก็คือ Voicemail หรือข้อความเสียง จะได้รับการถอดเสียงโดยอัตโนมัติและแสดงขึ้นบนหน้าจอ ณ ตอนนั้น เพื่อให้คุณอ่านข้อความได้ทันทีแล้วตัดสินใจว่าจะรับสายนั้นทันทีในกรณีเป็นเรื่องด่วนหรือจะกลับมาฟังข้อความภายหลังก็ได้
คุณสามารถแชร์ตำแหน่งปัจจุบันผ่านแอพ Messages ได้ และแอพจะแสดงตำแหน่งนั้นไว้จนกว่าคุณจะเช็กอิน เหมาะสำหรับการเดินทางกลับบ้านหรือไปยังสถานที่ใดเพียงลำพัง เพื่อให้เพื่อน ๆ หรือครอบครัวได้ทราบว่าคุณเดินทางปลอดภัยดีหรือไม่ ทั้งยังสามารถแสดงข้อมูลระดับแบตเตอรี่และสถานะของสัญญาณมือถือขณะเดินทางได้ด้วย
FaceTime
FaceTime แบบใหม่ คุณสามารถฝากข้อความเสียงหรือวิดีโอเอาไว้ได้หากว่าอีกฝั่งไม่รับสาย
FaceTime ยังเพิ่มฟีเจอร์ Reaction ส่งหัวใจ ลูกโป่ง พลุ แสงเลเซอร์ ฝน และเอฟเฟกต์อื่น ๆ ให้กันได้ระหว่างที่คุยกันอยู่
หากคุณมี Apple TV 4K อยู่ที่บ้านแล้วอยากคุย FaceTime บนนั้น คุณสามารถโทร FaceTime จาก Apple TV 4K ได้เลย หรือจะย้ายจาก iPhone มายัง Apple TV 4K ก็ได้เช่นกัน และยังใช้งานฟีเจอร์ Center Stage หรือจัดให้อยู่ตรงกลาง ได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะขยับไปทางไหน คุณก็จะอยู่ตรงกลางจอเสมอ
Safari
Safari ถูกพัฒนาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฟีเจอร์ Profiles แยกการท่องเว็บไซต์เป็นหัวข้อต่าง ๆ ได้ เช่น ทำงาน ส่วนตัว ซึ่งแต่ละ Profile จะเก็บประวัติการเข้าชม คุกกี้ กรุ๊ปแท็บ และรายการโปรดแยกออกจากกัน และการสลับระหว่าง Profile ก็ทำได้ง่ายมากอีกด้วย
Safari เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ คุณสามารถล็อกหน้าต่างที่กำลังใช้งานได้ด้วย Face ID หรือ Touch ID และยังลบตัวติดตามที่ใช้ติดตามข้ามเว็บไซต์ได้ด้วย
การค้นหาหรือ Search ทำได้ง่ายขึ้น เพราะตอบสนองฉบับไวกว่าเดิม ทั้งยังมีคำแนะนำการค้นหาที่เกี่ยวข้องมากขึ้น มีคำแนะนำที่เข้าใจง่ายกว่าเดิม
แอพ Health
Apple ตัดสินใจเอาแอพ Health มาใส่ไว้บน iPad แล้ว เริ่มที่ iPadOS 17 โดยมีการปรับให้เหมาะสมกับขนาดจอของ iPad ดังนั้นรายการโปรดจึงมาในลุคใหม่ คุณสามารถเข้าดูข้อมูลสุขภาพได้แบบครบถ้วนและชัดเจน
ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ iPadOS 17
- Stage Manager หรือ ตัวจัดการให้อยู่ตรงกลาง ปรับเรื่องตำแหน่งและขนาดของหน้าต่าง คุณจึงจัดการพื้นที่การทำงานได้มากกว่าเดิม และรองรับกล้องในตัวเครื่องและจอภาพภายนอกอีกด้วย
- แอพ Freeform เพิ่มเครื่องมือด้านการวาด รองรับการยกปลาย เอียง และการย้ายไปติดรูปร่างอื่น เพิ่มเส้นเชื่อมต่อและรูปร่างใหม่ ๆ ลงในวัตถุ และ Follow Along เพื่อแนะนำผู้ทำงานร่วมกันในบอร์ด
- Spotlight ค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้นไปอีกขั้น มี Shortcut มีการปรับปรุงเรื่องการแสดงผลลัพธ์ และการค้นหาวิดีโอ
- Visual Look Up หรือ ค้นดูจากภาพ เพิ่มความสามารถของการรู้จำไปสู่อาหาร หน้าร้าน รวมถึงเครื่องหมายและสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ป้ายแนะนำการดูแลรักษาที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า
- คีย์บอร์ด ปรับปรุงเรื่องการแก้ไขอัตโนมัติ (Auto correct) คุณจึงป้อนข้อความได้เร็วและง่ายดายขึ้น การคาดเดาข้อความแบบในบรรทัดช่วยให้พิมพ์จบประโยคได้เร็วขึ้น และฟีเจอร์ป้อนตามคำบอกก็เพิ่มโมเดลใหม่เรื่องการรู้จำคำพูดของที่ทำงานได้แม่นยำขึ้น
- Siri เปิดใช้งานได้เพียงพูดว่า “Siri” จากสามารถพูดหลายคำสั่งติดต่อกันได้เลยโดยไม่ต้องพูดสั่งเพื่อเปิดใช้งานซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
- แอพ Reminders เพิ่มรายการจ่ายตลาดเข้ามา จัดกลุ่มสินค้าเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ อัตโนมัติ และมีมุมมองคอลัมน์เพื่อแสดงหมวดหมู่เรียงไปตามหน้าจอแนวนอน
- แอพ Maps ดาวน์โหลดแผนที่ใช้แบบออฟไลน์ได้ สามารถเลือกพื้นที่ ค้นหาและลองดูข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ รวมถึงขอเส้นทางได้ทุกรูปแบบการเดินทาง แม้ว่าคุณจะออฟไลน์อยู่
- Privacy ความเป็นส่วนตัว ขยายความปลอดภัยในการสื่อสาร เพิ่มการปกป้องให้เด็ก ๆ มีการแจ้งเตือนเนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อนสำหรับผู้ใหญ่ มีการอัพเดตเรื่องสิทธิ์อนุญาตของรูปภาพ มีโหมดล็อกดาวน์ที่เสริมการปกป้องให้ผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์แบบว่าจ้างผลิต
- Accessibility การช่วยการเข้าถึง มีอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องด้านการรู้คิดมีความสะดวกและใช้ iPad ด้วยตนเองได้มากขึ้น ฟีเจอร์เสียงพูดสดช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถสื่อสารผ่านการพูดมีตัวเลือกในการป้อนข้อความให้ตัวเครื่องออกเสียงแทนตัวเองได้เมื่อสื่อสารแบบพบหน้า อยู่ในสายโทรศัพท์ หรืออยู่ในสายโทร FaceTime ฟีเจอร์เสียงส่วนตัวช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความเสี่ยงในการสูญเสียความสามารถในการพูดมีตัวเลือกในการผลิตเสียงที่คล้ายกับเสียงของตัวเอง แว่นขยายมีฟีเจอร์ชี้และอ่านออกเสียง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นเลือนรางสามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือวัตถุอื่น ๆ ซึ่งมีป้ายข้อความขนาดเล็ก
ที่มา apple.com