Apple ได้เปิดตัว Apple Watch พร้อมกันถึง 2 รุ่นที่งานSpecial Event ทั้ง Apple Watch 6 และ Apple Watch SE ซึ่งเป็นรุ่นประหยัด
เริ่มจาก Apple Watch รุ่น 6 ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาทกันก่อนนะคะ
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด ใช้ LED สีเขียว สีแดง และอินฟราเรดส่องลงบนเส้นเลือดตรงข้อมือ และใช้โฟโต้ไดโอดทำหน้าที่วัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมา จากนั้นอัลกอริทึมอันล้ำสมัยก็จะคำนวณสีของเลือด ซึ่งบ่งบอกปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่ วัดได้ใน 15 วินาที และยังสามารถวัดขณะหลับได้ด้วย
- วัดอัตราออกซิเจนในขณะออกกำลังกายสูงสุด
- ตัวบอดี้สีใหม่คือ สีน้ำเงินอะลูมิเนียมและ PRODUCT (RED)
- Apple watch fitness+
- จอสว่างขึ้น 2 เท่าเมื่อเปิด Always on Display
- Swimproof กันน้ำได้ ใช้ว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำได้
- ปรับแต่งหน้าตา Watch face ได้
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดอัตราออกซิเจนในขณะออกกำลังกายสูงสุด
- บันทึกการนอน
- สายใหม่ 2 แบบ คือ Solo Loop ทำจากซิลิโคนยืด ไม่มีรอยต่อใด ๆ ใส่สบาย น้ำหนักเบา ไม่ต้องกลัวหลุด ใส่ง่าย และ Braided Solo Loop ทำจากซิลิโคนยืดถักเข้ากับด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลกว่า 16,000 เส้น ยืดได้ และยังสวยแตกต่างด้วย
- ชิป S6 Dual-core
Family setup
ฟีเจอร์ใหม่ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้สูงวัยที่ไม่มี iPhone ประเทศไทยก็ใช้ได้ด้วย
- ไม่มี iPhone แต่ใช้ Apple watch ร่วมกันได้
- ติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ ข้อความ หรือวอล์กกี้ทอล์กกี้ได้ตลอดเวลา
- ติดตามตำแหน่งได้
- ตั้งค่าได้ว่าจะให้ติดต่อใครได้บ้างผ่าน Apple Watch
- School Time Mode ไม่รับการแจ้งเตือนระหว่างเรียน
- ไม่มี USB adaptor แท่นชาร์จ
- สายชาร์จ USB-C
- รักษ์สิงแวดล้อม เน้นการรีไซเคิล
สำหรับ Apple Watch SE จะมีราคาประหยัดกว่า เริ่มเพียง 9,400 บาท แต่ก็จะไม่มีฟีเจอร์บางอย่างคือ
วัดระดับออกซิเจนในเลือดและ Always on Display ส่วนฟีเจอร์พื้นฐานจะมีมาให้ครบเช่นกัน ประสิทธิเร็วขึ้นกว่า Apple Watch 3 ด้วย