AI มาแล้ว! Apple ปล่อย AI ของตัวเอง ใช้ชื่อว่า Apple Intelligence กับความสามารถสุดล้ำที่มาพร้อมความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวอันดับแรก!
Apple Intelligence
ระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลสำหรับ iPhone, iPad และ Mac รวมเอาขุมพลังของโมเดลเจเนอเรทีฟเข้ากับบริบทเฉพาะตัวบุคคลเพื่อส่งมอบข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์และตรงใจผู้ใช้แต่ละคน
การทำความเข้าใจและสร้างภาษา
ยกระดับการเขียนไปกับ Apple Intelligence เพื่อให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย Writing Tools และ Summarize
Writing Tools ช่วยปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้แทบทุกที่ที่เขียน ไม่ว่าจะในแอป Mail, Notes, Pages หรือแอปบริษัทอื่น สามารถเลือกปรับโทนให้เหมาะสมกับผู้อ่านและงานที่ทำ เช่น จุดหมายสมัครงาน คิดคำเขียนลงในบัตรเชิญปาร์ต้ แน่นอนว่ามาพร้อมกับการแก้คำผิด แก้ไวยกรณ์และรูปประโยคให้สวยงาม และมีคำอธิบายด้วยว่าทำไมถึงควรเปลี่ยน
Summarize คือการเลือกข้อความเพื่อนำมาสรุปเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบย่อหน้า ประเด็นสำคัญที่แยกเป็นข้อๆ ตาราง หรือรายการ
แอป Mail
Apple Intelligence มีบทบาทพิเศษในแอป Mail ช่วยให้การติดตามอีเมลเป็นไปได้อย่างไหลลื่นและง่ายดาย เริ่มต้นด้วย Priority Messages ซึ่งเป็นส่วนใหม่ที่ด้านบนของ Inbox ในแอป Mail จะแสดงอีเมลที่ด่วนที่สุด เช่น อีเมลเชิญไปงานในวันนั้น ๆ หรือบอร์ดดิ้งพาส ซึ่งจะแสดงเนื้อหาตัวอย่างในอีเมลขึ้นมาด้วย เราจึงไม่จำเป็นต้องเปิดเข้าไปดู
หากว่าเป็นอีเมลที่คุยกันต่อเนื่องหลาย ๆ ฉบับ แอป Mail จะรวบรวมมาไว้ต่อ ๆ กัน เพื่อให้คุณเรียกดูรายละเอียดที่ตรงประเด็นได้ง่ายขึ้นด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ส่วน Smart Reply เข้ามาช่วยเรื่องการตอบ มีการเสนอแนะนำคำตอบสั้นและง่ายให้ พร้อมทั้งตรวจหาคำถามในอีเมลให้ด้วย เพื่อให้คุณตอบคำถามได้ครบถ้วนไม่ตกหล่น
การแจ้งเตือน Priority Messages
Priority Notification คือการแจ้งเตือนที่สำคัญเป็นพิเศษ โดยจะปรากฏอยู่ด้านบนสุดของการแจ้งที่ซ้อนกันอยู่ ดึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดขึ้นมาก่อนอันอื่น ๆ แสดงเฉพาะการแจ้งเตือนที่อาจจำเป็นต้องตอบกลับในทันที เช่น ต้องไปรับเด็ก ๆ เร็วขึ้น เชิญไปกินข้าวเย็นนี้
การบันทึก ถอดเสียง และสรุปเนื้อหาในเสียง
คุณสามารถบันทึกเสียง ถอดเสียง และสรุปเนื้อหาในเสียงได้แล้วทั้งในแอป Notes และโทรศัพท์ ซึ่งผู้ที่อยู่ในจะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มบันทึกเสียง
เมื่อวางสายแล้ว Apple Intelligence จะทำการสรุปเนื้อหาสิ่งที่คุณคุยกันให้โดยอัตโนมัติ ทำให้กลับมาทบทวนประเด็นสำคัญได้ง่ายขึ้น
Image Playground
Image Playground คือการใช้ Apple Intelligence ช่วยสร้างภาพเก๋ ๆ ในไม่กี่วินาที โดยเลือกจากสไตล์ก่อน คือ Animation, Illustration หรือ Sketch แล้วจึงค่อยเลือกส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อให้สร้างภาพในแบบที่คุณต้องการ แล้วนำไปใช้บนแอปต่าง ๆ ได้
Image Playground ให้คุณเลือกแนวคิดจากหลายหมวดหมู่ที่มีให้ เช่น ธีม เครื่องแต่งกาย และสถานที่ จากนั้นพิมพ์คำอธิบายภาพที่ต้องการ เลือกใครสักคนจากคลังรูปภาพส่วนตัวเพื่อใส่ลงในภาพ แล้วเลือกสไตล์ที่ชอบ ง่าย ๆ เท่านี้เลย
Image Playground ในแอป iMessages จะช่วยแนะนำการสร้างภาพให้เหมาะและตรงกับการสนทนาระหว่างคุณและเพื่อนในขณะนั้นด้วย
แอป Notes ก็ใช้ Image Playground ด้วยเช่นกัน เพียงใช้ Image Wand ในแผงเครื่องมือของ Apple Pencil สร้างภาพสเกตช์ให้กลายเป็นภาพทีสวยงามและมีรายละเอียดมากขึ้น
นอกจากนี้ Image Playground ยังสามารถใช้งานบนแอป Keynote, Freeform และ Pages ได้อีกด้วย ส่วนแอปจากบริษัทอื่น ๆ ก็สามารถนำ API ไปใช้ได้เช่นกัน
Genmoji
Genmoji คือการพัฒนาไปอีกขั้นของอิโมจิ (Emoji) เพราะคุณสามารถสร้างขึ้นมาได้เองแบบเฉพาะตัว เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายที่ต้องการ แล้ว Genmoji ก็จะปรากฏขึ้นมาให้เลือก และยังสามารถสร้าง Genmoji โดยอ้างอิงจากภาพถ่ายเพื่อน ๆ และครอบครัวได้อีกด้วย ใช้แทรกในบรรทัดของข้อความได้ แชร์เป็นสติกเกอร์ได้ หรือใช้โต้ตอบใน Tapback ก็ได้เช่นกัน
แอป Photos
Apple Intelligence ทำงานร่วมกับคุณสมบัติความทรงจำ ช่วยให้คุณค้นหาภาพและวิดีโอได้ง่ายขึ้น เพียงพิมพ์คำอธิบายภาพลงไป เช่น เจมส์ใส่เสื้อสีน้ำเงินกำลังตกปลาอยู่ Apple Intelligence จะค้นหาและนำภาพหรือวิดีโอมารังสรรค์เป็นสตอรีไลน์ ร้อยเรียงทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นภาพยนตร์ได้
เครื่องมือ Clean Up ในแอป Photos ช่วยให้ลบวัตถุรบกวนสายตาตามที่คุณระบุได้ โดยลบออกจากฉากหลังในวิดีโอได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอไปลบโดนตัวแบบ
Siri
Siri เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปอีกระดับเพราะ Apple Intelligence เข้าใจภาษากว่าเดิม พูดภาษาพูด พูดผิดบ้าง ตะกุกตะกักบ้าง Siri ก็เข้าใจ สามารถจับใจความสิ่งที่คุณพูดได้ ทั้งยังรู้จักคุณมากกว่าเดิมด้วยการอ้างอิงสิ่งที่คุณทำเป็นประจำในช่วงเวลาเดิม ๆ และยังปรับดีไซน์ใหม่ ไม่มีวงกลม ๆ อีกต่อไป มีเพียงแสงเรือง ๆ รอบ ๆ ขอบหน้าจอขณะทำงาน
คุณสามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri และสลับไปมาระหว่างข้อความและเสียงพูดได้เลย และอีกอย่างที่ดีมากก็คือ Siri สามารถให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับอุปกรณ์ได้ ตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีทำอะไรบน iPhone, iPad และ Mac ได้
Siri รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ คุณจึงทำสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลบนหน้าจอได้ง่ายกว่าเดิม เช่น การเพิ่มที่อยู่ที่ได้รับมาในข้อความลงในบัตรรายชื่อของเพื่อน และยังสามารถทำสิ่งใหม่ๆ หลายร้อยอย่างทั้งในแอปและข้ามไปมาระหว่างแอปได้อย่างง่ายดาย เช่น ค้นหาหนังสือที่เพื่อนแนะนำและส่งมาให้ทางแอปข้อความและเมล
นอกจากนี้ Sirir ยังส่งมอบข้อมูลข่าวที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็ว เช่น คุณพูดว่า “เล่น PodCast ที่ Jamie แนะนำ” Siri ก็จะค้นหาและเล่น PodCast ตอนนั้นให้เองโดยที่คุณไม่ต้องนึกว่าเคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวไปในข้อความหรืออีเมลมาก่อนหน้านี้ หรือถามว่า “เที่ยวบินของคุณแม่จะมาถึงกี่โมง” แล้ว Siri จะค้นหารายละเอียดเที่ยวบินและนำไปตรวจสอบเทียบกับข้อมูลการติดตามเที่ยวบินแบบเรียลไทม์เพื่อบอกเวลาที่จะมาถึง
มาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นส่วนตัวในด้าน AI
Apple เน้นเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนมากที่สุด ดังนั้นจึงสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวในด้าน AI ขึ้นมา คือ การประมวลผลทั้งหมดจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ และหากมีคำขอที่ซับซ้อนมากขึ้นก็จะส่งประมวลผลผ่าน Private Cloud Compute ที่มีความปลอดภัยมาตรฐาน Apple
ChatGPT
Apple รวมกำลังกับ ChatGPT คุณสามารถใช้ ChatGPT บน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ได้ เพื่อให้เข้าถึงความเชี่ยวชาญของ ChatGPT ได้โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือต่าง ๆ
คุณสามารถใช้ Siri ดึงเอาข้อมูลจากคลังความรู้อันมหาศาลของ ChatGPT มาใช้ได้ เมื่อคุณอนุญาตให้เข้าใช้ ChatGPT โดยจะแสดงคำตอบโดยตรงผ่าน Siri
ยิ่งไปกว่านั้นคือ คุณสามารถใช้ ChatGPT ผ่าน Writing Tools ของ Apple ได้ทั่วทั้งระบบ ช่วยสร้างเนื้อหาต่าง ๆ ตามที่คุณกำลังเขียนอยู่
ChatGPT ยังช่วยสร้างภาพประกอบโดยอิงจากเนื้อเรื่องที่คุณเขียนอยู่ได้ด้วย
ChatGPT จะปิดบังที่อยู่ IP ของคุณอยู่แล้ว และยังจะไม่จัดเก็บข้อมูลคำขอจากผู้ใช้ผ่าน iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีใหม่ หรือหากมีบัญชีอยู่ก็สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีของคุณได้เช่นกัน
Apple Intelligence ใช้งานได้ฟรี และจะพร้อมใช้งานในส่วนปลาย ๆ ปีนี้กัน โดยจะเป็นส่วนหนึ่ง iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ในรูปแบบภาษาอังกฤษ โดยต้องใช้บน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad และ Mac ที่ใช้ชิป M1 และใหม่กว่านั้น
ที่มา apple.com