Apple ประกาศว่า Apple Music รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง พร้อม Dolby Atmos และเปลี่ยนเพลงทั้งหมดที่มีให้เป็นแบบ Lossless แล้ว โดยไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม
ผู้ใช้บริการ Apple Music สามารถเฟังเพลงด้วยระบบเสียงตามตำแหน่งได้แล้ว โดยเริ่มจากเพลงของศิลปินอย่าง J Balvin, Gustavo Dudamel, Ariana Grande, Maroon 5, Kacey Musgraves, The Weeknd และอื่น ๆ โดย Apple บอกว่าฟีเจอร์นี้ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมกันด้านเสียงเพลงแบบปฏิวัติที่เปิดโอกาสให้ศิลปินสามรถสร้างให้เสียงต่าง ๆ มาได้จากรอบตัว รวมถึงจากด้านบนด้วย
นอกจากนี้ผู้ใช้งาน Apple Music ยังสามารถฟังเพลงที่มีอยู่ในแค็ตตาล็อกกว่า 75 ล้านเพลงในแบบ Lossless ได้ด้วย ซึ่ง Apple ได้เลือกใช้ระบบแบบ ALAC (Apple Lossless Audio Codec) เพื่อให้เสียงเพลงมีรายละเอียดสมบูรณ์เหมือนต้นฉบับที่ถูกสร้างสรรค์จากห้องบันทึกแบบไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว
ไฟล์เพลง 20 ล้านเพลงจะพร้อมให้ใช้งานในระบบ Lossless ทันที จากนั้นจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนให้ครบทั้งหมด 75 ล้านเพลงในปลายปีนี้
มาตรฐานของไฟล์แบบ Lossless ของ Apple Music จะเริ่มด้วยคุณภาพแบบ CD 15 bit ที่ 44.1 kHz และสูงถึง 24 bit ที่ 48 kHz และระดับสูงสุดคือ 24 bit ที่ 192 kHz
Apple Music จะตั้งค่าเริ่มต้นให้เล่นด้วยระบบเสียง Dolby Atmos เมื่อคุณฟัง AirPods และหูฟัง Beats ที่ใช้ชิป H1 หรือ W1 รวมไปถึงเมื่อฟังผ่านลำโพงของ iPhone, iPad, Mac รุ่นล่าสุด
แต่หูฟังไร้สายของ Apple อย่าง AirPods ทุกรุ่นกลับไม่รองรับการฟังเพลงระบบเสียง Lossless เนื่องจากข้อกำจัดการส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth แต่ถึงจะเอาเอาหูฟัง AirPods Max มาเสียบสายก็ยังไม่สามารถฟังเพลงแบบ Lossless ได้อยู่
Apple Music จะเริ่มใช้เพิ่มเพลงระบบ Dolby Atmos ขึ้นมา และจะมีเพลย์ลิสต์เพลงระบบนี้ให้เลือกฟังอีกด้วย ทั้งยังจะเพิ่มป้ายสัญลักษณ์ Dolby Atmos เข้าไปด้วย จะได้หาได้ง่าย ๆ
ระบบเสียงตามตำแหน่งและ Lossless จะใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ iOS 14.6, iPadOS 14.6, macOS 11.4 และ tvOS 14.6 เป็นต้นไป
ที่มา macrumors.com และ theverge.com