หลังจากผลิต iPhone ให้โลกตะลึงแล้ว Apple ยังวางแผนจะสร้างรถยนต์ไร้คนขับอีกด้วย!
สำนักข่าว Reuters (รอยเตอรส์) รายงานว่า Apple ได้เริ่มโปรเจกต์สร้างรถยนต์ตั้งแต่ปี 2014 และได้ปรับลดสเกลลงให้เหลือเพียงการทำซอฟต์แวร์การขับเคลื่อนอัตโนมัติไปช่วงหนึ่ง
แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการหลาย ๆ ครั้ง รวมถึงมีการจ้างทีมงานเพิ่มขึ้น การพัฒนาต่าง ๆ จึงก้าวหน้าไปไวมากจนจะทำรถยนต์ขึ้นมาเองเลย ไม่ใช่เพียงแค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น
นอกจากนี้ Apple ยังได้พัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่ออกมาด้วย แบตเตอรี่นี้จะมีต้นทุนต่ำ แต่ใช้งานได้ยาวนานมากเดิม โดยแบตเตอรี่นี้มีชื่อว่า Momocell (โมโนเซลล์) สามารถเพิ่มแบตเตอรี่ทีละเซลล์ได้ ซึ่งด้านในจะมีพื้นที่ให้ใส่ถุงบรรจุตัวให้พลังงาน และสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย
การออกแบบของ Apple จะทำให้สามารถใส่วัสดุทำปฏิกิริยาเข้าไปในตัวแบตเตอรี่ได้เยอะขึ้น ช่วยให้รถยนต์ทำงานได้ยาวนานมากขึ้น และตอนนี้ Apple ก็กำลังทดสอบสารเคมีสำหรับการทำแบตเตอรี่ซึ่งเรียกว่า LFP หรือ Lithium Iron Phosphate ซึ่งร้อนน้อยกว่า Lithium-ion ประเภทอื่น ๆ จึงปลอดภัยมากกว่า
Reuters ยังบอกอีกว่า เทคโนโลยีแบตเตอรี่นี้ถือเป็นนวัตกรรมที่ล้ำไปอีกขั้นเลยทีเดียว เทียบแล้วก็เหมือนครั้งแรกที่คุณเห็น iPhone เลยทีเดียว
แต่ Apple ยังต้องเฟ้นหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการผลิตรถยนต์ ซึ่งได้วางว่าจะจับมือกับโรงงานผลิตยานพาหนะ รวมไปถึงร่วมมือกับพาร์ตเตอร์ผู้ผลิตอะไหล่รถยนต์ด้วย อย่างเช่น ทำเซนเซอร์ LiDAR
Apple Car อาจมีฟีเจอร์สแกนหาระยะห่างระหว่างสิ่งต่าง ๆ โดยใช้เซนเซอร์ LiDAR ซึ่ง Apple อาจตั้งทีมพัฒนาเรื่องนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะด้วย
Apple เคยพูดกับ Magna International เรื่องการผลิตรถยนต์มาก่อนนี้แล้ว แต่ว่าการเจรจาจบลงตรงว่าแผนการของ Apple เองยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร ซึ่งการทำสัญญากันจะต้องตกลงว่าจ้างให้ผลิตรถยนต์จำนวนมาก อย่างต่ำก็ต้อง 100,000 คันต่อปี
ส่วน Apple Car จะออกมาให้ยลโฉมกันเมื่อไหร่ ก็คาดว่าอาจเลื่อนไปถึงปี 2025 เลย เพราะตอนนี้เจอกับวิกฤติโรคระบาดจึงทำให้ต้องเลื่อนการผลิตออกไป
ที่มา macrumors.com