Bloomberg รายงานว่า Apple เริ่มพัฒนาชิปโมเด็ม 5G ของตัวเองแล้ว! จะไม่ง้อทั้ง Intel และ Qualcomm อีกต่อไป!
หากจำกันได้ เมื่อหลายปีก่อน Qualcomm เคยฟ้องร้อง Apple เรื่องสิทธิบัตรโมเด็มกันมานานว่า Apple แอบเอาข้อมูลไปให้ Intel ผลิตให้ จนกระทั่งทั้งสองประกาศสงบศึกกันไปเรื่องเมื่อปีก่อน
Apple จ่ายเงินค่าสิทธิบัตรให้ Qualcomm ไปกว่า 45,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการใช้งาน 6 ปี และตกลงจะซื้อชิปโมเด็ม 5G ของ Qualcomm เป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย ซึ่งเหตุผลที่ยอมก็เพราะว่า Intel ไม่สามารถผลิตชิปให้เสร็จตามที่ต้องการ
แต่ตอนนี้ Apple ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการหาแหล่งผลิตชิปโมเด็มอีกต่อไปแล้ว เพราะมีข่าวว่า Apple ได้เริ่มพัฒนาชิปโมเด็มของตัวเองขึ้นมาแล้ว
โดยข้อมูลเรื่องนี้มาจากปากของจอห์นนี ชรูจิ (Johny Srouji) รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์กล่าวเองที่งานประชุมในองค์กรระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นกัน เขาประกาศว่า Apple จะเริ่มสร้างชิปโมเด็มของตัวเองสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอนาคต และชิปโมเด็มตัวนี้จะใช้แทนอะไหล่จาก Qualcomm อีกด้วย
ผลก็คือหุ้นของ Qualcomm ลดลง 6.3% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพราะรายได้รวมของที่มาจาก Apple ถึง 11% ขณะที่ตัวเลขรายได้ของ Intel จาก Apple คือ 7% โดยเป็นการผลิต iPhone
จอห์นนี ชรูจิ พูดถึงเรื่องนี้ว่า ปีนี้ พวกเราได้เริ่มต้นพัฒนาชิปโมเด็มเป็นครั้งแรก ซึ่งจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของกลยุทธ์หลักเลยทีเดียว และกลยุทธ์ลงทุนระยะยาวแบบนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะเปลี่ยนให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความสามารถมาขึ้น และทำให้เรามีท่อส่งทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับนวัตกรรมของเราในอนาคต
รายงายยังบอกอีกว่า Apple ได้ใช้เงินไปกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ซื้อชิปโมเด็มจาก Intel ไปแล้วจนถึงเมื่อสิ้นปีก่อน
สำหรับ iPhone 12 รุ่น 5G ได้ใช้ชิปโมเด็ม X55 ของ Qualcomm แต่สำหรับ iPhone รุ่นหน้านี้ใช้ชิปโมเด็มจาก Intel
แต่ยังไม่มีการยืนยันหรือข่าวเพิ่มเติมว่าชิปโมเด็มของ Apple จะเสร็จเมื่อไหร่และพร้อมใช้งานเมื่อไหร่ รู้แต่ว่า Apple เริ่มเอาใจออกห่างจากวิศวกรรมของ Qualcomm มาสักพักแล้ว
ที่มา phonearena.com