Apple ประกาศเปิดตัว Final Cut Pro และ Logic Pro ที่ออกแบบมาให้ใช้บน iPad แล้ว ใช้งานง่ายและสะดวกกว่าเดิม!
Final Cut Pro สำหรับ iPad
Final Cut Pro สำหรับ iPad ออกแบบหน้าตา Interface แบบใหม่หมด เพื่อให้ใช้งานแบบสัมผัสได้ จึงทำให้ตัดต่อวิดีโอต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม เพราะใช้นิ้วลากหรือจิ้มเพื่อย้าย Managtic Timelime, ย้ายคลิป หรือตัดต่อได้
ส่วนใครชอบวาด ฟีเจอร์ Live Drawing คือดีมาก คุณใช้ Apple Pencil วาดและเขียนลงไปบนคอนเทนต์วิดีโอได้โดยตรง
ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณใช้ iPad Pro รุ่นชิป M2 คุณใช้ Apple Pencil เลื่อนดูตัวอย่างฟุตเทจได้โดยไม่ต้องใช้นิ้วสัมผัส
หากคุณอยากเพิ่มความสะดวกในการตัดต่อวิดีโอ พิมพ์ข้อความ คุณสามารถเชื่อมต่อ Magic Keyboard หรือ Smart Keyboard Folio เข้ากับ iPad ได้ ที่สำคัญคือรองรับการใช้คีย์ลัดหรือ Shortcut ต่าง ๆ ได้
ที่สำคัญก็คือหมดปัญหาเรื่องสีไม่ตรง เพราะหน้าจอ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วเป็นแบบ Liquid Retina XDR งานประเภท HDR จึงทำได้สบาย พร้อมทั้งยังมี Reference Mode ที่ช่วยปรับสีได้อย่างแม่นยำ
โหมดกล้องระดับโปรและการตัดต่อวิดีโอแบบมัลติแคม
คุณสามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงทั้งแนวตั้งและแนวนอน มอนิเตอร์เสียงและระยะเวลาที่สามารถบันทึกได้ รวมไปถึงควบคุมค่าต่าง ๆ ได้ เช่น โฟกัส ค่าแสง และไวต์บาลานซ์ ส่วนใครใช้ iPad Pro ที่ใช้ชิป M2 คุณสามารถบันทึกไฟล์วิดีโอแบบ ProRes ได้ด้วย
เมื่อถ่ายทำวิดีโอเสร็จแล้วก็สามารถนำมาตัดต่อและเผยแพร่ได้ทันที ทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำได้ผ่าน iPad เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น!
การตัดต่อวิดีโอแบบมัลติแคมบน iPad มีจุดเด่นตรงซิงค์มุมกล้องได้สูงสุด 4 มุมพร้อมกันโดยอัตโนมัติ และยังสลับไปมาระหว่างแต่ละมุมกล้องได้ง่าย ๆ แค่ใช้นิ้วแตะ
คุณสมบัติ Fast Cut พร้อมการเรียนรู้ของระบบ
Final Cut Pro สำหรับ iPad ซึ่งใช้ชิป Apple Silicon และการเรียนรู้ของระบบเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับงานตัดต่อที่กินเวลามาก ๆ เช่น
- Scene Removal Mask ที่ช่วยลบหรือเปลี่ยนฉากด้านหลังตัวแบบในคลิปได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้กรีนสกรีน
- Auto Crop ที่ช่วยปรับฟุตเทจให้เป็นแนวตั้ง จัตุรัส หรืออัตราส่วนภาพขนาดอื่น ๆ ได้
- Voice Isolation ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนของวิดีโอที่บันทึกนอกสถานที่ได้
กราฟิก เอฟเฟ็กต์ และเสียงระดับโปร
Final Cut Pro มีคลังกราฟิก เอฟเฟกต์ และเสียงระดับมือโปรให้คุณเลือกมากมายมาก รวมถึงฉากหลังแบบ HDR แพทเพิร์นแบบเคลื่อนไหวได้
เพลงประกอบระดับโปรก็มีให้เลือกเช่นกัน แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือคุณสามารถปรับเพลงประกอบให้เข้ากับความยาวของวิดีโอได้โดยอัตโนมัติ คุณจึงทำงานได้ง่ายและไวกว่าเดิม
Import และ Export
คุณสามารถ Import สื่อที่รองรับจากแอพ Files หรือ Photos แล้วบันทึกลงในโปรเจกต์ Final Cut Pro ได้โดยตรง
นอกจากนี้ Final Cut Pro สำหรับ iPad ยัง Import โปรเจกต์ที่สร้างไว้ใน iMovie สำหรับ iOS4 เข้ามาได้ และยัง Export โปรเจกต์ Final Cut Pro ไปมาที่ Mac ได้เช่นกัน
Logic Pro สำหรับ iPad
Logic Pro สำหรับ iPad ช่วยสร้างสรรค์เพลงระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น เพราะมีฟีเจอร์ทุกอย่างครบในแอดเดียว ทั้งยังทำงานได้ด้วยคำสั่งนิ้วแบบ Multi-Touch ที่ช่วยให้การสั่งและควบคุมที่ซับซ้อนง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
iPad ยังมีไมโครโฟนประสิทธิภาพสูงคุณภาพระดับสตูดิโอมากถึง 5 ตัว ใช้บันทึกเสียงร้องหรือเสียงดนตรีได้เป็นอย่างดี
เท่านั้นยังไม่พอ คุณยังใช้ iPad และ Apple Pencil ช่วยให้วาด Track Automation ได้อย่างละเอียด และยังเชื่อมต่อ Smart Keyboard Folio หรือ Magic Keyboard เพื่อให้สามารถใช้คำสั่งลัดต่าง ๆ ได้
เบราว์เซอร์เสียงแบบใหม่หมด
บราวเซอร์เสียงที่ออกแบบใหม่หมดใช้ตัวกรองแบบไดนามิก โดยจะแสดงแพตช์เครื่องดนตรี แพตช์เสียง ค่าสำเร็จรูปสำหรับปลั๊กอินตัวอย่างเสียง และลูปทั้งหมดในที่เดียว และยังสามารถแตะเพือลองฟังเสียงก่อนจะโหลดลงไปในโปรเจกต์ได้ด้วย จึงลดขั้นตอนและประหยัดเวลาได้มาก
ปลั๊กอินเครื่องดนตรีและเอฟเฟ็กต์ระดับมืออาชีพ
ใน Logic Pro มีปลั๊กอินเครื่องดนตรีและเอฟเฟ็กต์ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ และยีงมีเอฟเฟ็กต์แนววินเทจอย่าง EQ, คอมเพรสเซอร์ และรีเวิร์บให้แต่งเสียงในแทร็กได้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ Logic Pro บน iPad ยังมีคอลเลกชันเครื่องดนตรีที่ให้เสียงสมจริงให้เลือกจำนวนมาก รวมถึงซินธ์อันทรงพลังอย่าง Sample Alchemy ซึ่งเป็นเครื่องมือปรุงแต่งตัวอย่างเสียงแบบใหม่ที่สามารถแปลงทุกตัวอย่างเสียงได้ดังใจ
เครื่องมือสำหรับการทำบีทและงานโปรดักชั่น
คุณสามารถใช้ชุดเครื่องมือสำหรับการทำบีทและงานโปรดักชั่นได้ง่าย โดยมีเครื่องมือใหม่ ๆ และโดดเด่นดังนี้
- Beat Breaker ที่สามารถปัดและหนีบหรือกางนิ้วเพื่อแปลงและผสมเสียงให้ฉีกไปจากเดิมได้
- Quick Sampler ที่ตัดดแบ่งและเปลี่ยนตัวอย่างเสียงให้กลายเป็นเครื่องดนตรีใหม่
- Step Sequencer ซึ่งเป็นโปรแกรมแพทเทิร์นกลอง ไลน์เบส และทำนอง หรือสั่งปลั๊กอินให้ทำงานแบบอัตโนมัติด้วยการแตะไม่กี่ครั้ง
- Drum Machine Designer สร้างชุดกลองของตัวเองโดยการนำตัวอย่างเสียงและปลั๊กอินมาใช้กับแพดกลองแบบไหนก็ได้
- Live Loops ใช้เก็บบันทึกแรงบันดาลใจและเรียบเรียงเป็นท่วงทำนองได้อย่างรวดเร็วโดยการนำลูปเพลงมาผสมผสานในแบบที่ต้องการ
มิกเซอร์ระดับโปร
มิกเซอร์เต็มรูปแบบ มีเครื่องมือให้อย่างครบถ้วน ทั้ง Channel Strip, Volume Fader, Pan Control, ปลั๊กอิน, Send และ Precise Automation ซึ่งจำเป็นสำหรับการมิกซ์เสียงระดับมืออาชีพ
ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้บน iPad พร้อมกับการควบคุมแบบ Multi-Touch จึงช่วยให้มิกซ์เสียงได้ เลื่อน Fader หลายตัวพร้อมกันได้ และ Meter Bridge ยังช่วยให้ดูเลเวลเสียงของแทร็กในภาพรวมได้ในได้การมองครั้งเดียว
Import และ Export
Logic Pro สำหรับ iPad รองรับความสามารถในการทำงานร่วมกันทั้งสองทาง ย้ายโปรเจกต์ไปมาระหว่าง Logic Pro สำหรับ Mac และ iPad ได้ง่าย คุณสามารถ Export เพลงที่ทำเสร็จแล้วในแบบบีบอัดและ Lossless ได้หลายรูปแบบ รวมถึงแต่ละ Stem ของแทร็กเสียง
นอกจากนี้คุณยังสามารถทำเพลงใน Logic Pro สำหรับ iPad แล้ว Export มายัง Final Cut Pro สำหรับ iPad ได้ สลับไปมาระหว่างเพลงและวิดีโอได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ Logic Pro สำหรับ iPad ยังรองรับการเปิดโปรเจกต์ที่สร้างใน GarageBand สำหรับ iOS ได้อีกด้วย
Final Cut Pro และ Logic Pro สำหรับ iPad พร้อมให้ดาวน์โหลดทาง App Store ในราคา 4.99 USD (ประมาณ 165 บาท) ต่อเดือน หรือ 49 USD (ประมาณ 1,650 บาท) ต่อปี ทดลองใช้ได้ฟรี 1 เดือน
- Final Cut Pro สามารถใช้ได้บน iPad รุ่นชิป M1 หรือใหม่กว่า และ iPadOS 16.4
- Logic Pro สามารถใช้ได้บน iPad รุ่นชิป A12 Bionic หรือใหม่กว่า และ iPadOS 16.4
ไม่มีบัตรเครดิต ซื้อเกม แอพ ไอเท็มเกมได้มั้ย?
ถึงไม่มีบัตรเครดิต คุณก็ยังซื้อแอพหรือไอเท็มในเกม หรือบริจาคให้แอพได้ เพียงแค่ใช้ iTunes Gift Card บัตรเติมเงินของ Apple ซื้อค่ะ เติมโค้ดของบัตรเข้าไปใน Apple ID แล้วกดซื้อไอเท็มหรือแอพต่างใน US App Store ได้เลย
ถ้าสนใจซื้อ iTunes Gift Card ละก็ IGC.IN.TH มีจำหน่ายค่ะ เป็นบัตรเติมเงินของ Apple แท้ 100% ปลอดภัยจากการโดนแฮ็กเลขบัตรเครดิต ส่งโค้ดไว ถึงมือคุณใน 10 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง คลิกเลย >> ซื้อ iTunes Gift Card ผ่านระบบอัตโนมัติ
ที่มา apple.com