รายงานนี้มาจากบริษัทประกันภัย Allstate ซึ่งได้ทำการทดสอบความแข็งแกร่งของ iPhone 12 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้
การทดลองแบบนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Drop test หรือการทดสอบโดยการทิ้ง iPhone จากที่สุดหลาย ๆ รอบที่ระดับความสูงต่างกัน และดูว่าตัวเครื่องจะเสียหายอย่างไรในแต่ละความสูง
สำหรับการทดลองครั้งนี้ได้ผลว่า iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ไม่ได้รับความเสียใด ๆ หากทิ้งตัวเครื่องลงพื้นที่ระดับความสูง 6 ฟุตหรือ 1.8 เมตร ไม่ว่าจะทิ้งตัวเครื่องแบบคว่ำหน้าจอลง หงายหน้าจอขึ้น หรือทิ้งให้ด้านข้างลงไปก่อน
โดยตัวเครื่องยังทำงานได้ตามปกติหลังจากนั้น แต่อาจมีรอยขีดข่วนกวนใจได้ แถม iPhone 12 Pro จะมีรอยเยอะมากกว่า iPhone 12 ธรรมดาอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อทิ้งลงพื้นให้ตัวเครื่องด้านหลังสัมผัสกับพื้น
หน้าจอแบบเซรามิกชิลด์ถือเป็นพัฒนาแบบก้าวกระโดด ช่วยลดโอกาสหน้าจอแตกได้มากขึ้นจริง ๆ แต่หากแตกก็มีค่าซ่อมที่แพงมากเช่นกัน โดยค่าเปลี่ยนหน้าจอ iPhone 12 สูงถึง 279 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,700 บาท) ส่วน iPhone 12 Pro ราคาประมาณ 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,000 บาท)
ดังนั้นผู้ใช้งานควรจะใส่เคสกันกระแทกเช่นเดิม แถมมันจะช่วยปกป้องดูแล iPhone 12 ที่มีกล้องราคาสูงได้อีกด้วย
สำหรับผลงานทดลองโดยละเอียดมีดังนี้
- คว่ำหน้าจอทิ้งลงพื้นจากความสูง 6 ฟุตหรือ 1.8 เมตร
iPhone 12 มีรอยแตเล็ก ๆ และขอบบิ่นเล็กน้อย ทนกว่า iPhone 11 และ Samsung Galaxy S20 อย่างชัดเจน ส่วน iPhone 12 Pro ที่มีน้ำหนักมากกว่า 25 กรัมนั้นหน้าจอแบบเซรามิกชิลด์แตกเป็นรอยยาวตามแนวขวางตรงด้านล่าง แต่ตัวเครื่องยังทำงานได้ปกติ แม้จะแย่กว่า iPhone 12 ก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็ยังทำงานได้ดีกว่า iPhone 11 รุ่นก่อนอยู่ดี
- หงายหน้าจอทิ้งลงพื้นจากความสูง 6 ฟุตหรือ 1.8 เมตร
มีรอยครูดตามขอบและมุม ด้านหลังตัวเครื่องของ iPhone 12 ไม่ได้รับความเสียดายใด ๆ เพราะว่าได้ถูกปรับปรุงให้แข็งแรงมากขึ้น ทั้งการออกแบบให้แบนเรียบก็อาจช่วยลดโอกาสการเกินความเสียหายได้ ส่วนด้านหลังของ iPhone 12 Pro กลับแตกละเอียด แถมกล้องเลนส์ไวด์ยังแตกอีกด้วย แต่ไม่มีความเสียหายต่อการทำงานของเครื่องเลย
- ทิ้งให้ด้านข้างลงพื้นพื้นจากความสูง 6 ฟุตหรือ 1.8 เมตร
ขอบเครื่อง iPhone 12 มีรอยครูด รวมถึงขอบแบบสแตนเลสของ iPhone 12 Pro ก็มีรอยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะตรงมุม แต่ไม่มีความเสียหายอื่น ๆ ปรากฏให้เห็นเลย
ทั้งนี้ผลงานทดสอบนี้มาจากผู้ทดสอบเพียงรายเดียว อาจต้องผลการทดสอบอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วยเพื่อข้อมูลที่มากขึ้นและเพิ่มความแม่นยำกว่าเดิมนะคะ
ที่มา 9to5mac.com