ถ้าคุณอยากเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเอง ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่ให้แอพนำไปใช้งานได้โดยไม่ได้รับอนุญาต คุณต้องจัดการกับ App Permission หรือสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว!
เพราะความเป็นส่วนตัวคือเรื่องใหญ่ ข้อมูลส่วนตัวของคุณคือสิ่งสำคัญและมีค่า ทั้งยังหมายถึงความปลอดภัยของคุณอีกด้วย ดังนั้น Apple จึงเพิ่มฟีเจอร์ App Permission ให้คุณสามารถเลือกได้ว่าแอพต่าง ๆ จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้มากน้อยแค่ไหน
แอพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณใน iPhone ได้อย่างไร
ก่อนอื่นเลยก็ต้องพูดถึงเรื่องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่อยู่ใน iPhone/iPad ของคุณเสียก่อน ว่าแอพเหล่านั้นเข้าถึงได้อย่างไรกัน
แอพต่าง ๆ ในเครื่องจะต้องขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจากคุณเสียก่อน ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะหมายถึงข้อมูล ณ ปัจจุบัน เช่น ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ขณะนั้น ซึ่งหากคุณไม่รู้ว่าแอพเหล่านั้นเข้าถึงข้อมูลประเภทนั้นได้อย่างไร คุณอาจเผลออนุญาตให้แอพต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวไปโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เริ่มแรก วิธีง่าย ๆ ที่คุณจะดูได้ว่าแอพและเกมต่าง ๆ จะเข้ามาดึงข้อมูลส่วนตัวประเภทไหนบ้างก็คือ เข้าไปยัง App Store >> เลือก แอพหรือเกม นั่น ๆ >> เลื่อนหาคำว่า Data Used to Track You และ Data Linked to You
คุณจะเห็นได้ว่าแอพหรือเกมเหล่านี้แล้วจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอะไรของคุณได้บ้างเมื่อคุณให้อนุญาตพวกเขาก่อนที่จะติดตั้งลงบนเครื่องของคุณ
ต่อจากนี้คือ 4 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของคุณ
1. การดูว่าแอพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณอย่างไร
ฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone เปิดโอกาสให้คุณเห็นว่าแอพต่าง ๆ ใช้งาน App Permission หรือสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณอย่างไรบ้าง คุณจะรู้ได้ทันทีว่าแอพหรือเกมเหล่านั้นเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ควรหรือไม่ โดยฟีเจอร์นี้เรียกว่า App Privacy Report ซึ่งใช้งานได้เมื่อคุณติดตั้ง iOS 15.2 ขึ้นไป
วิธีการใช้งาน App Privacy Report
- เปิดแอพ Settings
- เลื่อนลงมาด้านล่างสุดแล้วกดที่ Privacy
- เลือก App Privacy Report
คุณจะเห็นว่าคุณใช้งานแอพตัวไหนบ่อยที่สุดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ และคุณสามารถกดที่แอพแต่ละตัวเพื่อดูข้อมูลอื่น ๆ เช่น โดเมนที่แอพใช้เชื่อมต่อ หรือเว็บไซต์ที่แอพได้เข้าไปเยี่ยมชม
หากว่าคุณไม่อยากรู้หรือเห็นข้อมูลตรงนี้ คุณสามารถเลื่อนลงไปด้านล่างสุดแล้วกดที่ Turn Off App Privacy Report เพื่อปิดฟีเจอร์นี้และลบข้อมูลปัจจุบันตรงนี้ไป
2. เปลี่ยนการตั้งค่า App Permission
การเปลี่ยนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของแอพต่าง ๆ หรือ App Permission ทำได้ง่ายมากผ่าน iPhone ของคุณ คุณสามารถให้สิทธิ์หรือปฏิเสธการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไม่กี่ครั้ง
วิธีเปลี่ยนการตั้งค่า App Permission
- เปิดแอพ Settings ขึ้นมา
- เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วกดที่ Privacy
คุณจะเห็นรายการหมวดหมู่ข้อมูลที่แต่ละแอพจะเข้ามาใช้ได้ เมื่อคุณกดที่แอพเหล่านั้น เช่น Calendar, Camera หรือ Microphone แล้วจากนั้นข้อมูลว่าแอพเหล่านี้เข้าใช้งานข้อมูลในหมวดหมู่อะไรบ้างก็จะปรากฏขึ้นมาให้คุณเห็น
คุณยังสามารถเข้าไปยังแอพแต่ละแอพที่ติดตั้งเอาไว้แล้วและเปลี่ยนค่า App Permission แบบรายแอพได้ แต่มันจะกินเวลาค่อนข้างเยอะเลยละ
3. ปิดการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งปัจจุบัน
แอพบางแอพจะขอเข้าถึงตำแหน่งปัจจุบันของคุณ ซึ่งหากคุณไม่ต้องการให้แอพรู้ คุณสามารถปิดการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกแอพหรือทุกเกมที่ต้องการทราบตำแหน่งปัจจุบันของคุณ ดังนั้นคุณสามารถเปิดหรือปิดการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันนี้ได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการเปิดปิดการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่างปัจจุบัน
- เปิดแอพ Settings
- เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วเลือกที่ Privacy
- กดเลือก Location Service
- กดเลือกแอพที่ต้องการ
- เลือกว่าต้องการใช้แอพนั้น ๆ เข้าถึงตำแหน่งข้อมูลปัจจุบันของคุณหรือไม่ หากไม่ต้องการ ให้เลือกที่ Never
นอกจากนี้คุณยังเลือกออปชันอื่นเพิ่มได้ด้วย นั่นคือ…เลือกได้ว่าแอพจะเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันของคุณได้เฉพาะตอนที่คุณใช้งานแอพนั้นอยู่ โดยเลือกที่ While Using เท่านี้แอพก็จะเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันของคุณได้เฉพาะตอนที่คุณเปิดใช้งานแอพเท่านั้น
นอกจากนี้คุณยังทำได้มากกว่านั้นคือปิด Precise Location หรือตำแหน่งที่แม่นยำ เพื่อไม่ให้แอพได้รู้ตำแหน่งแท้จริงแบบเป๊ะ ๆ ของของคุณได้
4. ปิดไม่ให้แอพ Tracking (ติดตาม) การใช้งานของคุณ
ฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone ที่เพิ่มเข้ามาก็คือสามารถขอให้แอพหยุดติดตาม (Tracking) การใช้งานของคุณ
ปกติแล้วแอพต่าง ๆ จะติดตามการใช้งานของคุณเพื่อจะได้แสดงโฆษณาที่เหมาะกับคุณ หรือเพื่อสร้างโปรไฟล์ของคุณขึ้นมาโดยอิงตามสิ่งที่แอพคิดว่าคุณสนใจซึ่งก็อ้างอิงจากลักษณะการใช้งานของคุณอีกที
สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากการ Tracking ของแอพก็คือ หากคุณใช้แอพที่มีเจ้าของเดียวกัน แอพเหล่านั้นจะติดตามพฤติกรรมการใช้งานของคุณไม่ว่าจะใช้แอพตัวไหนของบริษัทก็ตาม เช่น Facebook สามารถ Track การใช้งานของคุณขณะที่คุณใช้งาน Whatsapp หรือ Instagram ได้
โชคดีที่ iOS 15 ขึ้นไปเพิ่มฟีเจอร์ให้คุณปิดไม่ให้แอพต่าง ๆ สามารถ Tracking การใช้งานของคุณได้ แม้จะไม่ 100% ก็ตาม ซึ่งค่า Default หรือค่าแรกเริ่มนั้น แอพหรือเกมจะถามว่าคุณต้องการจะให้แอพ Tracking การใช้งานของคุณหรือไม่ในครั้งแรก แต่หากว่าคุณข้ามขั้นตอนนั้นไปหรือต้องการเปลี่ยนค่าใหม่ทีหลังก็สามารถทำได้เช่นกัน ดังนี้
วิธีการปิดไม่ให้แอพ Tracking (ติดตาม) การใช้งานของคุณ
- เปิดแอพ Settings
- เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วเลือกที่ Privacy
- กดที่ Tracking
- กดปิด Tracking ที่แอพที่คุณต้องการจะปิด
คุณสามารถปิด Allow Apps to Request to Track หรือ ‘ยอมให้แอพขออนุญาต Track’ ได้ เพื่อที่แอพจะได้ไม่ต้องส่งคำขออนุญาตมาให้คุณอีก
แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะทำงานได้สมบูรณ์ แต่ก็ช่วยบล็อกไม่ให้แอพ Track การใช้งานของคุณได้มากพอสมควร แต่ว่า iPhone และ Apple ก็ไม่อาจควบคุมให้นักพัฒนาหยุดพยายามจะหาวิธีมา Track ข้อมูลของคุณอยู่ดี ดังนั้นคุณจึงควรระมัดระวังในการดาวน์โหลดและใช้งานแอพต่าง ๆ ด้วย
ที่มา idropnews.com